วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

คริสมาสสสสสสสสส

        อโลฮ่าสวัสดี ขี้เกียจเขียนบล้อคแล้วอ่ะ เออช่างเหอะ เมื่อเกือบ 2 เดือนที่แล้วมีเทศกาลที่สำคัญอันดับต้นๆของโลกเกิดขึ้น!!!! นั่นคือออออออออออ เทศกาลคริสมาสนั่นเองงงงงงงง
        ขอเกริ่นไว้เลยว่าตั้งแต่เด็กๆแล้วนะ เราอยากไปเทศกาลคริสมาสจริงๆ แบบ อยากเจอต้นคริสมมาสจริงๆที่อยู่ตามบ้านคน ไม่ใช่ต้นใหญ่ๆในพารากอน อยากกินอาหารคริสมาส อยากปั้นตุ้กตาหิมะ อยู่มา 15 ปีไม่เคยได้ทำอะไรแบบนี้เลย แต่ถ้าจะถามว่าคริสมาสเป็นไฮไลท์ของปีแลกเปลี่ยนมั้ย มันก็ไม่ใช่นะ คือมันธรรมดากว่าทีคิด (อ่าว กรรม)ไม่เหมือนที่คิดไว้เท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่าเป็นประสบการณ์ดีมั้ย บอกเลยว่าดี สนุกด้วย

และต่อจากนี้จะเป็นไฮไลท์ที่เด็กแลกเปลี่ยนแถวยุโรป ต้อง ทำให้ได้
1.ตลาดคริสมาส!!! บอกเลยว่าต้องมาจริงจัง เป็น The Must มากๆ คือถ้ามีตลาดคริสมาสแถวบ้านแล้ว
   ไม่ไปนี่กลับเมืองไทยไปเหอะ(ดุจังเรา) ที่นี่เค้าจะใช้ชื่อว่า Weihnachtsmarkt จะจัดก่อนถึงวันคริสมาส
   ประมาณ 1 เดือน แล้วพอก่อนคริสมาสไม่กี่วันก็จะปิดเพราะพวกคนขายเค้าก็จะกลับไปหาครอบครัว
   เหมือนกัน ตลาดคริสมาสที่ดังๆเลยนะ จะมีที่ koeln , aachen , munchen แล้วก็ nuernberg เรามีเกร็ด
   ความรู้? มาให้ จากการสำรวจด้วยตัวเอง ตลาดคริสมาสที่ koeln มันจะมีใหญ่ๆอยู่ 3 ที่ ตรงโดม
   Heumarkt แล้วก็ Neumarkt แต่ตรง neumarkt เดินไปเรื่อยๆซัก 5 นาทีก็จะมีอีกที่เหมือนกัน คือมันกระ
   จายๆไปทั่วเมือง ก็ลองไปเดินดูเอาเองละกัน ของที่ขายก็คล้ายๆกันหมดแหละ จะมีเทียน อาหาร แล้วก็
  โมบายสวยๆ

2. ไปโบสถ์ จริงๆมันน่าเบื่อมากๆๆๆๆ แต่มันเป็นธรรมเนียมของเค้า พอเราถามโฮสว่าไปโบสถ์แล้วไป
    ทำอะไรกัน โฮสนี่มองเราแบบโกรธๆเลย อารมณ์แบบทำไมต้องถามด้วย คือก็คนมันไม่รู้ป่ะ สรุป
    แล้วก็ไปนั่งสวดมนต์ แล้วก็ฟังเค้าร้องเพลง

3. ดื่ม Gluehwein!!!!! มันคือไวน์ร้อนนั่นเอง อร่อยดี หากินได้ตามตลาดคริสมาสทุกที่ เออ จะบอกว่า
    เวลาซื้อ Gluehwein หรือไปซื้อน้ำตรงร้านที่ขายไวน์แบบนี้นะ เค้าจะให้แก้วเรามา แต่ละที่แก้วจะ
    หน้าตาไม่เหมือนกัน ถ้าไม่อยากได้แก้วก็เอาไปคืน จะได้ตังค์คืนมา น่าจะ 2 ยูโรไม่ก็ 3 นี่แหละ แต่เรา
    เก็บไว้ เวลาไปตลาดคริสมาสแต่ละที่ก็ซื้อเก็บมาหมด เออ จะบอกว่า สมมติอายุไม่ถึง 16 ก็ไม่ต้องกลัว
    ว่าเค้าไม่ขายนะ คือใครซื้อเค้าขายหมดแหละ อาจจะยกเว้นพวกเด็กแบบเด็กน้อยป.3 ต้องเด็กจริงๆ
    ถึงซื้อไม่ได้

4. กินไส้กรอกย่าง(เขียนไปเขียนมากลายเป็นแนะนำอาหาร555) อร่อยค่ะ เตาย่างใหญ่เว่อร์ๆ ดูได้ตาม
    รูปเลย แล้วก็บางทีจะมีพวกหมูย่าง ไก่ย่างเสียบไม้ด้วย

5. ลองไปซื้อต้นคริสมาสกับตกแต่งต้นคริสมาส ไม่รู้จะแนะนำอะไรดี555 คือเราว่ามันตลกดีอ่ะ ต้นไม้
    เรียงกันเป็นตับๆ แล้วก็เดินเลือกต้นคริสมาสเอา

6. ลองต่อบ้านขนมแล้วก็อบคุกกี้ การอบคุกกี้เป็นธรรมเนียมของที่นี่เลยนะ อบแล้วเอามาตกแต่งสวยๆ
   บ้านขนมนี่โฮสพี่สาวเราอยากเล่นเฉยๆ ไม่มีไร555

และสุดท้ายนี้ ขอแชร์ประสบการณ์คริสมาสเราละกัน ก่อนอื่นเลย ก่อนวันคริสมาสวันนึง ตอนเช้าตื่นมา ไม่ได้ทำไรเลยค่ะ555 ปกติเหมือนทุกวัน พอบ่ายๆก็ไปหาแม่โฮสพ่อ แล้วก็ไปคุยเล่นกับกินข้าวเที่ยงแล้วก็กลับมาบ้าน พอเย็นๆหน่อยก็ไปโบสถ์ เวลาเดินไปนอกบ้านพอเจอใครก็ทักว่า Frohe Weihnach กลับมาถึงบ้านก็กินข้าวเย็นกัน โฮสบอกข้าวเย็นแต่ละบ้านจะไม่เหมือนกัน ของโฮสนี่จะเป็นแบบเอาของไปย่างในเตา ไม่รู้บ้านอื่นเป็นไงเหมือนกัน555 พอกินเสร็จปั้บ!!! ถึงช่วง Boxing Dayyyyyyyy ก็จะแลกของขวัญกัน จริงๆก่อนช่วงคริสมาสซัก 2-3 อาทิตย์บางคนจะบอกของที่อยากได้กับพ่อแม่ พ่อแม่ก็จะซื้อให้ตามที่ขอ แต่เราไม่รู้ว่ามันขอได้ด้วย -_- นั่นแล เลยได้ของขวัญตามที่โฮสอยากจะให้

 ที่ Koeln


 อันนี้น้ำพั้นช์ร้อนที่ Siegburg Bonn ตอนนั้นยังไม่กล้าสั่งไวน์
 โกโก้ที่แถวๆ Neumarkt อร่อยสุดในบรรดาโกโก้ที่ขายช่วงคริสมาส




 ที่ Siegburg Bonn ธีมตลาดจะคล้ายๆยุคอัศวิน มันมีละครให้ดูด้วยแหละ แต่เราไม่ได้ดู



 ที่ Heumarkt


ที่ดุสเซลดอฟ


 อันนีในโบสถ์
 อันนี้ที่บ้าน เป็นอาหารค่ำวันคริสมาส
ของขวัญคริสมาสจากโฮส


ช้อกโกแลตรสที่ขายเฉพาะช่วงคริสมาส  รสชาติเฉยๆ รสบราวนี่อร่อยกว่า5555
แฮ่ ปั้นหิมะสนุกมากเลย555
  ต้นคริสมาสที่ไม่เหมือนต้นคริสมาส555
                   

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

เยอรมันวันละนิด

           เฮ่! สวัสดี ไม่เจอกันน้านนาน วันนี้เราจะมาสอนศัพท์เยอรมันน่ารู้ ศัพท์บ้านๆใช้บ่อยๆ เอาไว้คุยกับเพื่อนกับโฮส

ศัพท์และประโยคไว้คุยเล่น
1. egal แปลว่า doesn't matter ตอนมาใหม่ๆนี่เห็นเด็กแลกเปลี่ยนหลายคนจะเกลียดคำนี้ เพราะเพื่อนจะ
                        ชอบพูด แบบ เวลาเพื่อนพูดแล้วเราฟังไม่ออก พอถามว่าพูดไรนะ เพื่อนจะ
                        แบบ egal คล้ายๆ ช่างเหอะ ไม่ได้สำคัญอะไร ขี้เกียจพูดอีกรอบ555
2. das ist mir egal แปลว่า i don't care ก็ตรงตัวเลย เวลาพูดจะคล้ายๆว่า แล้วไง ชั้นไม่สน
3. krass อันนี้เห็นโฮสพี่พูดบ่อย แต่แปลว่าไรไม่รู้555 แปลจากดิคได้ว่า rudely , offensively แต่เห็นเวลา
             พูดจะเป็นอารมณ์แบบ เจ๋งว่ะ!
4. blöd แปลจากดิคได้ว่าโง่ แต่เวลาพูดจะอารมณ์แบบ บ้าไปแล้ว!
5. ich bin weg อันนี้พูดบ้อยบ่อย แปลว่าออกไปด้านนอกนะ ไม่อยู่บ้าน
6. sicher? แปลว่า sure? ตรงตัวเลย
7. stark ไม่ได้เป็นชื่อบ้านใน game of thrones นะ 555(แต่เห็นคนบอกว่าคนแต่งเอามาจากภาษาเยอรมัน
             นี่แหละ) แปลตรงๆว่า strong เวลาพูดจะเหมือนชมว่าเทพมาก เจ๋งมาก บางทีก็พูดชมตัวเอง
             อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
8. echt แปลว่า really ใช้คล้ายๆอังกฤษเลย ใช้เป็นคำอุทานคล้ายๆว่า จริงดิ? ไม่ก็แปลว่า really ที่เป็น
                        adj แบบ really good
9. wirklich แปลว่า really ส่วนมากใช้เป็นคำถาม แบบ จริงหรอ
10. was ist los? แปลว่าเกิดอะไรขึ้น
11. was ist passiert? แปลว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือน was ist los เลย แต่ถ้าจำไม่ผิดอันนี้จะเป็นอดีต
12. wie bitte? แปลว่าอะไรนะ
13. wie warst? แปลว่าเป็นไงบ้าง โฮสชอบถามเวลาไปเที่ยวมาไม่ก็ตอนหลังสอบ


หมวดของกิน(แสดงถึงนิสัยคนเขียนเลย555)
1. schmeck มาจาก schmecken แปลตรงๆว่าลองกิน แต่ถ้าพูดเดี่ยวๆแปลว่าอร่อย
2. schmeck komisch แปลว่าไม่อร่อย
3. Rot und Weiss แปลตรงๆคือสีแดงกับขาว แต่อยู่ในหมวดของกินเพราะเวลาซื้อเฟนชฟราย ถ้าจะราด
                            ซอส ซอสมะเขือเทศกับมายองเนสเค้าจะพูดรวมกันว่า Rot und Weiss



ต่อจากนี้จะเป็นหมวดคำหยาบ 5555
1. คำแรกเลย! ใช้บ่อยจริงอะไรจริง scheiße แปลว่า shit หรือบางทีก็ suck ถ้าเป็นคำหยาบไทยก็คำว่า
    เ-ี้ย เวลาคนถามว่าสอบเป็นไงบ้าง ก็พูดคำนี้แหละ คล้ายๆว่า โคตรเ-ี้ย! เลย
2. Arschloch แปลว่า asshole คำนี้ไม่เคยใช้นะ555 เอาไว้ด่าคนอื่น
3. verdammt แปลว่า damn! เค้าสบถกันใช้คำนี้
4. fick dich แปลว่า fuck you รู้กันอยู่แล้วแหละ คำนี้ไม่ค่อยเห็นนะ สงสัยมันหยาบมาก
5. wie dumm แปลตรงๆว่าทำไมโง่ขนาดนี้ เวลาพูดด่าจะประมาณว่า ไอ้โง่ ไม่ก็พูดด่าตัวเองก็ได้

ปล. เยอรมันแต่ละเมืองบางคำจะพูดไม่เหมือนกัน เราไม่รู้ว่าที่ยกตัวอย่างมาเมืองอื่นเค้าพูดแบบนี้รึเปล่านะ เราอยู่ Köln รัฐ Nordrhein-Westfalen ถ้าอยู่รัฐเดียวกันส่วนมากก็จะเหมือนๆกัน อย่าเชื่อมากก็แล้วกัน555

วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ครั้งแรกกับวอดก้า...

            โย่ว! สวัสดี คราวนี้ไม่มีอะไรเลย แค่จะมาบอกเล่าประสบการณ์การกินวอดก้าให้ฟัง เกิดมาเราไม่เคยกินวอดก้าเลยเพราะพ่อไม่กิน เคยลองกินแต่เบียร์กับไวน์แล้วเราไม่ชอบ
             เริ่มเลย! ขอย้อนไปก่อนว่าที่เราได้กินวอดก้าเนี่ย เพราะโฮสพี่จะจัดงานวันเกิดอายุครบ 18 แล้วบังเอิญว่าวันเกิดโฮสพี่ไปอยู่ใกล้ๆกับวันเกิดเพื่อนอีกคน คราวนี้เลยจัดควบ งานเลยใหญ่มากๆ ในงานเลยมีเหล้าให้กิน
              มาวันงานเลยนะ คนในงานจะเป็นเพื่อนของเพื่อนโฮสพี่กับเพื่อนโฮสพี่ แล้วพอดีว่าเพื่อนโฮสสนิทกับเด็กเกรด10ด้วยก็เลยเชิญมา ในงานเราก็ไปอยู่กับพวกที่มาจากเกรดเดียวกันนี่แหละ ก็คุยๆไป ระหว่างคุยเนี่ย แม่ของเพื่อนโฮสจะเดินถือพวกแอลกอฮอล์แจกคนในงาน อารมณ์เหมือนเป็นบ๋อย😗 ตอนแรกก็ถือเบียร์มาแล้วก็ถามกลุ่มเราว่าใครจะเอามั้ย เราไม่ชอบกินเบียร์และเพื่อนเราไม่มีใครหยิบเลย เราเลยบอกไม่เอา คุยๆไปซักพัก คราวนี้เดินแม่เพื่อนโฮสมาพร้อมกับถาดใส่แก้วใบเล็กๆ แบบกระดกอึกเดียวหมด ด้านในมีน้ำสีๆ มีสีแดง สีเขียว สีเหลือง คราวนี้เพื่อนทุกคนหยิบหมด เราก็นึกว่าเป็นน้ำแดงอะไรงี้ก็เลยหยิบบ้าง เราหยิบถ้วยสีแดง แล้วทุกคนก็พูด นึง ส่อง ซั่ม! แล้วก็ดื่มรวดเดียวหมด เราก็ทำบ้าง คราวนี้แหละ รู้เลย มีกลิ่นเชอร์รี่ที่รสชาติเหมือนยาแก้ไอตอนเด็กๆ แล้วมันก็ขมๆ นี่มัน! เหล้าชัดๆ! เราก็เลยถามเพื่อนว่าอันนี้น้ำอะไร มันบอกวอดก้าไงๆ เราก็งง นึกว่าวอดก้าไม่มีสี แต่ช่างมัน กินไปแล้ว5555 คราวนี้คุยๆไปซักพัก มาอีกรอบ555 ทุกคนก็หยิบอีก เราเลยหยิบบ้าง555 คราวนี้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง
           คราวนี้รสชาติเป็นเลม่อน อร่อยกว่าเดิม555 พอแม่เพื่อนโฮสมาอีกรอบเราก็หยิบสีที่ยังไม่ได้กินคือสีเขียว อันนี้รสชาติแปลกๆหน่อย น่าจะแอปเปิ้ลมั้ง สีเขียวเราว่าอร่อยสุดแล้ว หลังจากนั้นเค้าก็เดินมาเสิร์ฟเรื่อยๆ เราก็ดื่มทุกรอบ5555 เราน่าจะดื่มไป 6-7แก้วได้ คราวนี้แหละ ไปห้องน้ำแล้วทำของตก พอจะก้มไปหยิบปั้บ! มึนค่ะ เวียนหัวนิดนึง ก็เริ่มเอะใจและ พอไปส่องกระจกดู หน้าแดงมาก!!! ชัดเลยลูก
เมา!!! เมาค่ะเมา5555  ก็ว่าอยู่ทำไมหน้าร้อนๆ คือบอกเลยว่าตอนดื่มนี่ไม่ได้คิดว่าจะเมาเลยซักนิดเดียว มันกินทีละนิดๆ ก็เลยไม่รู้สึก คราวนี้ออกจากห้องน้ำมา หิวน้ำมาก น่าจะเพราะกินเหล้าไปเยอะ ก็เลยไปขอดื่มน้ำ เพื่อนเห็นว่าเราสั่งน้ำมาดื่มก็เลยถามว่าเป็นไรมั้ย5555 ก็บอกไปว่าสงสัยจะเมา ก็เลยไม่ได้ดื่มอีก คราวนี้ดื่มแต่น้ำ พอผ่านไปซักพัก(ไม่ซักพักแหละ หลายชั่วโมงอยู่) รู้สึกหายเมาแล้ว เพื่อนมันก็หายไปไหนไม่รู้ เราเลยไปนั่งคนเดียวตรงเค้าเตอร์ เรารู้สึกว่าคงไม่ค่อยมีโอกาสได้กินวอดก้าบ่อยเท่าไหร่ และเคยมีผู้หวังดีคนนึงกล่าวไว้ว่ามาแลกเปลี่ยนก็ทำทุกอย่างตามที่คนที่นี่เค้าทำกัน เราเห็นคนอื่นสั่ง     สไปรท์ผสมวอดก้ากันหมด เพราะงั้น!!! เนื่องจากเราสร่างเมาแล้ว เราเลยสั่งมากินบ้าง!!! (ไม่เข็ด 5555) คราวนี้เราอยู่คนเดียวไม่มีใครคุยด้วย เราก็ดื่มไปเรื่อยๆๆ เพราะไม่รู้จะทำอะไร จิบทีละนิดจนหมดแก้ว จะลุกไปหยิบพวกขนมตรงสแน็กบาร์ หูอื้อ!!! โอ้วมายฟักกิ้งก้อด!! หูอื้อ เวียนหัว ปวดหัว ได้ยินเสียงไม่ชัดแบบเสียงเป็นวิ้งๆอ่ะ คราวนี้แหละ!!! เมาหนักกว่าเดิมอีก!!! ฟัคมาก คือก็ยังดีที่ไม่ถึงขนาดเดินไม่ตรง แต่แบบ เข้าใจป่ะ หัวมันตื้อๆ ได้ยินอะไรไม่ชัด แบบช้อคมากกกกกก วอดก้าไม่ถึงครึ่งแก้วปกติมันขนาดนี้เลยหรอวะ คนอื่นกินกันเยอะแยะไม่เป็นไร สงสัยเพราะเรากินครั้งแรก😫 แบบ คราวนี้นี่เดินไปหยิบขนมปังแล้วเดินออกไปด้านนอกงานเลย เราไม่ต้องการพูดกับใคร555 เดินไปนั่งคนเดียวอยู่ตรงซอกไม่ให้ใครเห็น กลัวเค้าเข้ามาคุยด้วย คือนั่งอยู่ตรงนั้นหลายสิบนาทีเลย เรานั่งจนเราหายหูอื้ออ่ะ ตอนนั้นอากาศน่าจะแค่เลขหลักเดียวเพราะหายใจเป็นควันอ่ะ เราใส่เสื้อยืดกับ Pullover ตัวนึงแต่เราไม่ค่อยหนาวเลยนะ สงสัยเพราะเมาอยู่555 หลังจากนั้น เราต้องการกลับบ้านอย่างด่วนที่สุดเพราะอยากนอนให้หายเมา แต่โฮสพี่สาวเป็นเจ้าภาพก็กลับก่อนไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เราก็เลยไปนั่งอยู่ที่เดิม ก็รอไปเรื่อยๆ จนโฮสแม่เดินมาถามว่าจะกลับบ้านมั้ยเพราะโฮสพี่ชายจะกลับแล้ว เราเลยรีบเลย สรุปวันนั้นกลับถึงบ้านตี 1 ไม่ก็ตี 2 นี่แหละ และนี่ก็คือประสบการณ์เมาครั้งแรก5555

แถมท้ายนิดนึง พอเราตื่นแล้วเรายังปวดหัวอยู่เลย555

ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย มีแต่รูปจากแสนปแค่นี้แหละ555

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

อาหารเยอรมัน!!!!

            วู้ววววววว ในที่สุดก็มาถึงหัวข้อที่(เรา)รอคอย!!! อาหารนั่นเอง!!!!
            ทุกคนคงรู้ว่าอาหารขึ้นชื่อเยอรมันคืออะไรเนอะ ก็มี ไส้กรอก ขาหมู เบียร์ คงจะรู้กันอยู่แค่นี้แหละ แถมบางคนคงคิดว่าจะได้กินบ่อยๆ  แต่ของจริงมันไม่ใช่แบบที่คิด! ถ้าคิดว่าจะได้กินไอ 3 อย่างนั้นทุกวันก็คิดใหม่ซะ

ไล่ตั้งแต่เช้ายันเย็นในวันธรรมดา
เช้า : แล้วแต่วัน ปกติกินซีเรียล บางวันกินขนมปังโฮลวีตแข็งๆ เรียกไม่ถูกใส่พวกแฮม ไม่ก็ทาแยม
        บางทีก็ครัวซอง
เที่ยง : คนปกติก็กินขนมปังเรียก Brötchen แต่เรากินขนมปังโฮลวีตแบบเดิม ใส่แฮมใส่เนย อยากใส่
           อะไรก็ได้ บางวันกินสลัดผัก บางวันกินสปาเก็ตตี้ บางวันเลิกเร็วโฮสก็บอกให้ทำอาหารไทยให้
           กินหน่อย😳
เย็น : ขนมปังอีกแล้วววว😑 แต่เฉพาะโฮสเรานะที่กินขนมปังตอนเย็น เห็นคนอื่นกินพวกซุปอะไรแบบนี้
         ขนมปังตอนเย็นก็จะมีหลายแบบหน่อย เป็น Brötchen ไม่ก็ baguette ไม่ก็ขนมปังโฮลวีต บางทีก็กิน
         ที่เหลือจากตอนเที่ยง
หลังเย็น : โฮสพ่อกับแม่กินเบียร์ เรากับพี่กินโยเกิร์ต

เช้ายันเย็นวันไม่ธรรมดา(วันหยุดเสาร์อาทิตย์นั่นแหละ😑)
เช้า : Brötchen กับ Baguette แล้วก็ไข่ต้มด้วย
เที่ยง : โฮสชอบกินมันฝรั่งใส่ครีมใส่เบคอนใส่ชีส(อ้วนมาก ไม่รู้ทำไมโฮสผ้อมผอม) ไม่ก็ลาซานย่า
หลังเที่ยง : โฮสพ่อกับพี่ชอบกินขนม ก็จะกินเค้ก ไม่ก็ไอติม บางทีโฮสพ่อทำข้าวใส่นม เค้าเรียก  
                   Milchreis อ่ะ รสชาติเหมือนข้าวเหนียวมูน
เย็น : ขนมปังแบบวันธรรมดา ไม่ก็ที่เหลือจากตอนเที่ยง บางทีก็กินพิซซ่า
หลังเย็น : โฮสพ่อกับแม่กินเบียร์ เรากินโยเกิร์ต

จากที่เขียนมานี่ สรุปได้ว่า ไม่มีขาหมู ไส้กรอกกินเวลาเข้าเมือง เบียร์กินทุกวันเลย555 โอเค ถือว่าไม่ได้ทำลายความหวังของคนที่มาที่นี่เพราะเบียร์เนอะ555 (เอาจริงๆ คนเยอรมันบางคนก็ไม่ได้ชอบกินเบียร์นะ แต่พอดีโฮสแม่กับโฮสพ่อชอบมาก)  กิน Brötchen บ่อย กินขนมปังบ่อย ถ้าทำอาหารปกติจะทำอาหารจากมันฝรั่ง

จบแล้วสำหรับอาหารที่กินปกติ คราวนี้มาถึงอาหาร+ขนมที่ต้องลองกินแล้วววววว

ปล.เราไม่ชอบกินชีสนะ
ปล.2 เราชอบกินดาร์คช้อกโกแลตมากๆ ชอบช็อกโกแลตที่รสชาติเข้มๆหน่อย

อย่างแรก! Currywurst!!!! หากินง่ายมากๆ มันคือไส้กรอกราดซอสอะไรซักอย่าง อร้อยอร่อย ปกติกินกับเฟรนฟรายนะ ในภาพคือผิดปกติ555 ราคาปกติ 2.9-4.5 ยูโร


อย่างที่ 2 ! Bratwurst!!!!  มันคือ Currywurst แบบไม่ราดซอสแกงกะหรี่นั่นแหละ กินกับขนมปัง

อย่างที่ 3! Pommes!!!! เฟร้นฟรายนั่นแหละ แต่มันอร่อยอ่ะ ไม่มีภาพเพราะมันคือเฟรนฟรายปกติจริงๆ

อย่างที่ 4! ไอติมเจลาโต้!!!! มาถึงก็รีบๆกินเพราะยังเป็นหน้าร้อนอยู่ ปกติราคา 0.9-1.2 ยูโร


อย่างที่ 5! Lindt!!!! อย่าสงสัยว่าทำไมมาเยอรมันแล้วกินช้อกโกแลต เรารู้แต่ว่ามันอร่อยและที่ไทยหาซื้อไม่ค่อยได้ จากการสำรวจเกือบครบทุกรสพบว่ารส dark chocolate cookie อร่อยสุด555 กรุบๆขมๆหน่อย เราชอบซื้อแบบแท่งยาวๆแบบในภาพอ่ะ มันกินง่ายดี

อย่างที่ 6! Ferrero!!!! ช้อกโกแลตอีกแล้ว555 ไม่ใช่แบบลูกๆนะ อันนั้นที่ไทยก็มี หมายถึง yogurette รสโยเกิร์ตสตรอเบอรี่ กับ Giotto รส hazelnut ไม่ก็ รสดาร์คช้อกโกแลต



อย่างที่ 7! Haribo!!!! มันมีต้นกำเนิดที่เมือง Bonn ของเยอรมัน ใครมาก็ต้องกินทุกคนแหละ 
ในภาพคือโฮสซื้อแพ็คใหญ่มาใส่ปี๊บไว้กินเล่น


อย่างที่ 8! ของในเบเกอรี่ทั้งหลาย ไม่มีอะไรหรอก แค่เราไม่ค่อยเห็นขนมปังกับเค้กแบบนี้ในไทย

Pflaumenkuchen เค้กที่ทำจากผลไม้อะไรก็ไม่รู้ ในภาพคือหาจากกูเกิ้ลเอา


Blackforest cake ต้นกำเนิดก็เยอรมันนี่แหละ


อย่างที่ 9! Chipsfrisch!!!! มันคือเลย์สัญชาติเยอรมัน รส Currywurst อร่อยมากๆ


อย่างที่ 10! เบียร์ประจำเมือง!!!! แหน่ะๆ ต่ำกว่า16ห้ามกินนะจ๊ะ(พูดแล้วเข้าตัว555) คือแต่ละเมืองจะมีเบียร์ของตัวเองเลย อย่างเราอยู่ที่ Köln ก็จะมีเบียร์ชื่อ Kölsch เห็นคนบอกเบียร์แต่ละเมืองรสชาติไม่เหมือนกัน เบียร์เมืองไหนอร่อยคนในเมืองนั้นก็จะภูมิใจมาก


อย่างที่ 11! Quark ball!!!!! มันคืออะไรไม่รู้ Quark มันจะเป็นอะไรซักอย่างคล้ายๆโยเกิร์ตแต่เปรี้ยวกว่า
อันนี้มันเหมือนแป้งผสม Quark (มั้ง) แล้วเอาไปทอด โรยไอซิ่ง เปรี้ยวๆนิดนึง หน้าตาคล้ายๆโดนัท
ขอบคุณรูปประกอบจากกูเกิ้ล


อย่างที่12! Schnitzel !!!!! มันคือหมูชุบแป้งทอดนี่แหละ ไม่มีไร 
ขอบคุณรูปประกอบจากกูเกิ้ล



อย่างที่ 13! Glühwein!!!!!!! มันคือไวน์ร้อน มีขายช่วงคริสมาสในคริสมาสมาร์เกต ไม่ก็เมืองที่หนาวๆจะมีขายตลอด 
รูปจากกูเกิ้ลอีกแล้ว



ส่วนอาหารที่เราไม่ชอบนะ 

Sauerkraut ซุปอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่เกลียดมากๆ จากที่เห็นนะ พวกผู้ใหญ่จะชอบกินกัน แต่เด็กจะเกลียดมาก อย่างโฮสพี่เราทั้งสองคน ญาติโฮส Betreuer เราที่อายุ18 จะไม่ชอบกิน แต่พวกพ่อๆแม่ๆนี่ชอบมาก

Reibekuchen  มันคือมันฝรั่งบดแล้วเอาไปทอด กินกับซอสแอปเปิ้ล ตอนแรกๆก็โอเคนะ แต่กินๆไปเลี่ยนมากๆ
รูปจากกูเกิ้ล



อาหารที่ติดคำว่า Bio มันคืออาหารที่ปลูกแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สาร ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เราว่าซื้อแบบธรรมดาอร่อยกว่า 555

โกโก้!!! ติดมาได้แบบไม่น่าเชื่อ!! จริงๆเราชอบกินโกโก้มากเลยนะ แต่โกโก้ที่นี่แบบ รสชาติมันอ่อนอ่ะ มันไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ เวลาเราอยากกินเลยต้องชงเอง (ผงโกโก้ที่นี่ชอบเป็นแบบสำเร็จรูป แบบมีน้ำตาลผสมให้แล้ว เราว่ามันหวานไปเลยต้องเอาผงโกโก้ทำขนมมาชง) ในภาพคือของสตาร์บั๊ค ไม่ได้ถ่ายแบบเปิดฝาอ่ะ อยากรู้สีไปดูแก้วข้างๆ Blackforest cake ด้านบน
















วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เจอโฮสต์ครั้งแรก !!+กิจวัตร

     สวัสดีวันเสาร์ วันนี้เราจะมาพูดในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับดวงเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือเรื่อง โฮสต์แฟมิลี่!!
     ส่วนใหญ่น่าจะมีประสบการณ์การรอโฮสที่ต่างกัน บางคนได้ตั้งแต่ 3 เดือนแรก บางคนได้ก่อนไปไม่กี่อาทิตย์ ก็แล้วแต่ดวงกันไป บางคนได้โฮสดี บางคนได้โฮสแย่ ก็แล้วแต่ดวงอีก ส่วนเรานี่ได้โฮสที่ดี(มาก) 

      ของเรานะ(อันนี้คือประสบการณ์การรอโฮส ไม่ต้องอ่านก็ได้แต่อยากเขียน555) ตอนรอคือตื่นเต้นมากกกกกกก มันคือการรอแบบไม่มีจุดหมายอ่ะ คือไทม์ไลน์เรานะ เหลืออีก 6 เดือน.....เดี๋ยวก็ได้......3เดือนถัดมา....ช้าๆได้พร้าเล่มงาม....เหลืออีก1เดือนกว่า.....เราได้โฮสแล้ว! แต่โฮสมีลูกเป็นเด็กออทิสติกแถมพ่อแม่ไม่ยอมบอกว่าทำงานอะไร YFU เค้าก็ถามว่าโอเครึเปล่า เราเห็นว่ามันดูแปลกๆเลยปฏิเสธไป จากนั้นก็รอออออ รอยาวเลยTT...จนวันประชุม yfu รอบสุดท้ายก่อนไป(เหลืออีก3อาทิตย์)....เฮ้ย ทำไมยังไม่ได้วะ ไหนบอกวีซ่าใช้เวลา 3 อาทิตย์ไง ที่บ้านก็บ่นว่าได้โฮสช้ามาก แถมพี่สาวยังมีการพูดซ้ำเติมว่าคงไม่มีใครอยากรับเด็กแลกเปลี่ยนที่บอกว่าตัวเองขี้อายหรอก (ในเอกสารที่ให้เขียนนิสัยตัวเองกับสาเหตุที่มาแลกเปลี่ยนเราเขียนไปว่าขี้อายกับอยากมั่นใจในตัวเอง) ไอเพื่อนก็ช่วยกันอวยพรจั๊งว่าขอให้ไม่ได้โฮสๆ  เพื่อน yfu ก็มีแต่คนบอกได้โฮสแล้วๆ  คือเครียดมากกกกกก ทั้งโดนตัดกำลังใจ โดนสาปแช่ง โดนบลั๊ฟจากเพื่อนคนนู้นคนนี้ ตอนนั้นคือกลัวไม่ได้ไปสุดๆ บอกเลยว่าเปิดมือถือรอเมลล์ที่YFUจะส่งมาแทบจะทั้งวัน เวลามีเมลล์เข้าทีนี่รีบเปิดอ่าน เปิดดูปั๊บ! จดหมายข่าว YFU ก็เซ็งไป....เมลล์เด้งอีก! ก็เปิดอีก....เพื่อนในเฟสบุ๊คแท็คคุณ....แทบจะลบแอคเค้าเฟสบุ๊คทิ้ง555 ผ่านไปอีก1อาทิตย์ก็ยังไม่ได้ ช่วงนั้นคือจิตตกมาก ต้องรอที่ไทยก่อนหรอ ลาเรียนไปแล้วทำไงดี  บลาๆๆ แต่ในที่สุด! เราได้โฮสก่อนไปอาทิตย์กว่าๆ อื้มหืมมมมมม น้ำตาแทบไหล(เพื่อนที่รรนี่มีแต่คนบอกเสียดาย ไม่น่าได้โฮสเลยจะได้อยู่ไทยต่อไป555) โฮสเราประกอบไปด้วย โฮสแม่ พ่อ พี่สาว(17) แล้วก็พี่ชาย(19) พอรู้ชื่อโฮส รู้อีเมลล์ก็จัดการส่งเมลล์ไปทักทายพร้อมกับขอรูปภาพโฮส(เค้าไม่ได้ให้มากับเอกสาร) ระหว่างรอโฮสตอบกลับก็จัดการเสริชรูปโฮสสิคะรออะไร เฟสบุ๊ค ไอจี มีอะไรบ้างเสริชหมด555 แต่หาไม่เจอเลย สุดท้ายมาเจอรูปโฮสแม่จากการเสิร์ชกูเกิ้ล เป็นรูปโฮสแม่มาช่วยผู้ประสบภัยสึนามิในอินโดนีเซีย ที่เรามั่นใจว่าเป็นโฮสแม่เพราะอายุกับหน้าตาสัมพันธ์กัน55

       ปล. ขอขอบคุณทุกกำลังใจและการซ้ำเติมทั้งหลาย ในที่สุดเราก็มีวันนี้

      สรุปแล้ว ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี โฮสส่งรูปมา ดูเป็นครอบครัวอบอุ่น เราคิดว่าที่ได้โฮสช้าส่วนนึงคงเพราะเราปฏิเสธโฮสคนแรกไปด้วยแหละ ใครที่กลัวจะไม่ได้โฮสก็ใจร่มๆเอาไว้ลูก คนได้ก่อนไปวันเดียวยังมี ที่สำคัญคือได้โฮสดีไม่ใช่ได้โฮสเร็ว (อูววววววววววว คมไปอีกกกกกกกก)

       เข้าเรื่อง(ออกทะเลไปไกลมาก) วันแรกที่เจอโฮสเนี่ยเป็นวันเสาร์ โฮสเค้ามารับเราที่บ้านโฮส 3 อาทิตย์(ในขณะที่เพื่อนคนอื่นต้องนั่งรถไฟไป) โฮสที่มาก็มี โฮสพ่อ แม่ พี่ชาย ส่วนพี่สาวไปติวเตรียมเข้ามหาลัยก็เลยมาไม่ได้ พอมาถึงบ้านปุ้บ เราก็เอาของไปเก็บในห้อง พอลงมาโฮสแม่ก็อธิบายวันเวลาว่าใครอยู่บ้านตอนไหน ไปทำงานกี่โมง เวลาไหนโฮสอาบน้ำ งานอดิเรก แล้วก็อธิบายกฎนู่นนี่นั่น เรามีเรื่องที่ติดใจมากว่าทำไมได้โฮสช้า(เก็บกด) เราก็เลยลองพูดๆไปหน่อยว่า เนี่ย เรากลัวไม่ได้โฮสมากเลยรู้มั้ย ขอบคุณมากที่รับเรา แล้วโฮสแม่ก็บอกว่าเค้าเลือกรับเราตั้งนานแล้ว แต่พอดีทำเอกสารช้า yfu เลยบอกช้า ที่เค้าเลือกเราเนี่ยเป็นเพราะเราเขียนว่าสาเหตุที่มาแลกเปลี่ยนเพราะอยากมั่นใจในตัวเองและที่กรอกเอกสารไปว่าชอบทำอะไรไม่ชอบอะไร โฮสบอกว่าเราเขียนเหมือนโฮสพี่สาวตอนจะไปแลกเปลี่ยนเด๊ะๆเลย เค้าเลยเลือกรับเรา! (อยากอัดคลิปให้พี่ดูมากๆ ตอนแรกพี่นี่บ่นใหญ่เรื่องโฮส) ตอนเย็นโฮสก็พาไปดูทางไปโรงเรียนก่อน แล้วก็กลับบ้าน กินข้าวเย็น นอน เรากะจะให้ของฝากตอนวันแรก แต่ก็ที่บอกไปว่าโฮสพี่สาวไม่อยู่ เราเลยไม่ได้ให้ กะจะให้ทีเดียวตอนอยู่กันครบ

        วันต่อมา ตอนเช้าก็ตื่นมาตอน7โมงกว่าๆ ปรากฏว่าไม่มีใครตื่นเลย...เราก็ลงมานั่งเล่นตรงห้องรับแขก เสร็จแล้วโฮสพ่อกับโฮสแม่ถึงค่อยลงมา ก็กินข้าวเช้า เสร็จแล้วโฮสพ่อก็จะไปรับโฮสพี่สาวที่อีกเมือง เราก็นั่งรถไปด้วย ระหว่างทางโฮสก็อธิบายว่าอันนี้เป็นถนนใหญ่ ห้ามขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ที่นี่นะ แล้วก็ชี้พวกปราสาทที่อยู่บนภูเขาระหว่างทางให้ดู คือบรรยากาศมันดีมากกกกกกกกก โฮสเปิดกระจกรถให้ลมพัดเข้ามา ลมก็เย็นๆสบายๆ รถก็ไม่ติด บ้านเมืองก็สวย ตรงนี้บ้านคน อีกฝั่งเป็นภูเขา คือเรานี่แบบ 'ขออยู่นี่จนแก่เลยได้ป่าว' คือชีวิตเค้าดูชิลมากอ่ะ เปรียบเทียบบ้านเรากับที่นี่แล้วอิจฉาสุดๆ อยากเกิดใหม่เป็นคนเยอรมัน(เวอร์ไป แต่ถ้าทำได้ก็ทำ555) ก็ได้แต่อิจฉาไป....นั่งๆอิจฉาอยู่พักนึงก็ไปถึงที่ติวโฮสพี่ เราก็นั่งรอแป้บนึงก็เห็นโฮสพี่เดินลงมา เห็นตอนแรกคืองงเลยว่าทำไมรูปไม่ค่อยเหมือนตัวจริง ตัวจริงนี่ผอมกว่าในรูป คือในรูปจะดูปกติ แต่ตัวจริงคือผอมอ่ะ ไม่ได้ผอมขนาดนั้นแต่ผอมกว่าที่คิดไว้พอสมควรเลย ก็ทักทายกันไม่ได้มีไรมาก พอกลับบ้าน โฮสพี่บอกการบ้านเยอะมากกกกกก ต้องรีบทำ เราก็คิดว่าคงทำซักชมหรือ2ชม แต่! 30นาทีต่อมา นางเดินลงมาจากห้อง บอกว่าเสร็จแล้ว...อ่ะ...ก็ต้องเข้าใจแหละว่ามาตรฐานจำนวนการบ้านมันต่างกันTT พอโฮสพี่ลงมาด้านล่างปั้บ เค้าเปิดวิทยุฟังเพลงแล้วก็ทำบราวนี่ ทำๆไปซักพัก....อยู่ๆนางก็เต้น! งงเลย อยู่ๆก็แบบ โยกตัวซ้ายขวา มือ เท้า ทุกอย่างไปหมด555 โยกตัว สะบัดหัวนิดหน่อย ตลกดี555 (เพลงที่เปิดบ่อยๆชื่อ wir sind groß) ระหว่างเต้นนี่ก็มีมาคนๆบราวนี่นิดหน่อย สรุปแล้วก็ทำบราวนี่จนเสร็จนะ พอมาตอนกินข้าว เราจะให้ของขวัญโฮส โฮสพี่ชายไม่อยู่ WTF... ก็ไม่ได้ให้อีก กินเสร็จโฮสพี่ก็ชวนเล่นเกมกระดาน เล่นกัน3คนกับโฮสพี่โฮสพ่อ โฮสแม่ไม่ชอบเล่นก็นั่งกินเบียร์ดูเราเล่นไป โฮสพ่อก็กินด้วย เล่นเสร็จ โฮสพ่อแพ้...โฮสพี่ก็บอกว่าเวลากินเบียร์โฮสพ่อไม่เคยเล่นชนะเลย555 โฮสพ่อก็บ่นๆว่าไม่ได้กินแบบมีแอลกอฮอล์ซักหน่อย โฮสพี่ก็บอกว่ายังไงก็แพ้อยู่ดี พอจะขึ้นห้องไปนอนโฮสพี่ก็บอกว่าพรุ่งนี้เราต้องไปรรพร้อมกัน แล้วโฮสพ่อบอกเราอาจไปสายหน่อยเพราะโฮสพี่ชอบตื่นสาย555 โฮสพี่ก็ไม่ได้พูดอะไร(เพราะเถียงไม่ออก555) เสร็จแล้วก็ขึ้นห้องไปนอน


       วันธรรมดา : ตารางเรียนเรากับโฮสพี่ไม่ค่อยเหมือนกันเลยไม่ค่อยได้ไปรรด้วยกัน ตื่นเช้ามาก็แปรงฟัน ล้างหน้าลงมากินข้าวก็เจอโฮสพ่อโฮสแม่ โฮสพี่สาวจะกินข้าวช้ากว่าเราหน่อย โฮสพี่ชายนี่ไม่เคยเจอก่อน9โมง...พักกลางวันก็กลับมากินข้าวบ้าน ประหยัดดี ตอนกินข้าวกลางวันก็จะเจอโฮสพี่สาวกับพี่ชาย บางทีจะมีเพื่อนโฮสพี่มากินข้าวด้วย ส่วนโฮสพ่อกับโฮสแม่ก็ทำงานอยู่ พอเลิกเรียนเสร็จ กลับบ้านมาก็ทำการบ้าน ถ้าทำไม่ได้ก็ถามโฮส แล้วก็กินข้าวเย็นด้วยกัน บางวันโฮสแม่จะไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยเพราะต้องไปทำงาน กินเสร็จโฮสพี่สาวกับพ่อก็จะเล่นเกมกระดานกัน ขอบอกเลยว่ามีเยอะมากกกกกกกกก มีตั้งไว้เป็นตู้เลย โฮสพี่ชายกับโฮสแม่ไม่ชอบเล่นก็จะกลับขึ้นห้องไม่ก็นั่งดูเราเล่น เล่นเสร็จแล้วก็ขึ้นนอน 

      เสาร์อาทิตย์ : ตื่นมาก็เจอโฮสพ่อกับโฮสแม่ โฮสพี่ตื่นสายมากกกกกกก ไม่ค่อยเจอตอนกินข้าวเช้าเลย กินเสร็จแล้วโฮสก็เอาหนังสือพิมพ์มาแล้วก็บอกให้เราอ่านจะได้ฝึกภาษา คำไหนไม่รู้ก็ถามโฮส หลังจากนั้นโฮสก็จะไปซื้อของ บางทีก็นั่งรถไปเมืองอื่นเล่นๆ ไม่กินข้าวเที่ยง กินเค้กช่วงสายๆแทน พอวันอาทิตย์ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเพราะร้านค้าปิดหมด แต่บางครั้งโฮสแม่ไปร้องคอรัสที่โบสถ์แถวบ้าน เราก็ตามไปฟังด้วย เสาร์อาทิตย์เป็นช่วงพักผ่อนของคนเยอรมันอ่ะ ไม่ค่อยทำงาน นานๆจะมีงานเสาร์อาทิตย์ที ไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ เป็นวันชิลๆ

 ข้อคิด : 1.ตอนกรอกเอกสาร เขียนอะไรที่เป็นตัวเราจริงๆ! ย้ำ!ต้องเป็นเรื่องจริง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้โฮส  
                 ควรกลัวว่าจะได้โฮสที่เข้ากับเราไม่ได้มากกว่าอีก  
              2.มาถึงก็ถามเรื่องกฎในบ้านเลย ถามเวลาใช้ห้องน้ำด้วยก็ดี 
              3.โฮสทำอะไรเราก็ทำตาม อย่างของเราต้องปิดฝาชักโครกหลังใช้ 
              4. โฮสชวนทำอะไรก็ทำไปเถอะถ้ามันไม่ผิดกฎหมาย
              5. แต่ถ้าไม่อยากทำก็บอกไปเลย






     2 อันนี้คือเกมที่ชอบเล่นกัน


แถวบ้านเราเอง



อันนี้ถ่ายตอนไปเดินเขากับโฮสแม่ 


สวยล่ะสิ!!!!! แถวบ้านอีกเหมือนกัน 5555 วิวสวยมีชัยไปกว่าครึ่ง ขนาดใช้กล้องมือถือถ่ายก็ยังสวย


 ถ่ายจากรถไฟ


สัญลักษณ์เมืองเราเอง!!!! ต้นสนในภาพคือเตรียมงานคริสมาสอยู่ เค้าเตรียมงานคริสมาสมาร์เก็ตกันเป็นเดือนเลย

Comments