วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สอบ!!! Klausur

          สวัสดีทุกคน! ขอโทษที่หายไปนาน(มากๆ) ยอมรับเลยว่าไม่ได้ไม่ว่าง ว่างทุกวันแต่แค่ขี้เกียจเฉยๆ(รักนะจุ้ฟๆ😘)  ที่วันนี้มาเขียนเนี่ย เพราะรู้สึกอยากระบายและอิจฉาในความโชคดีของเด็กเยอรมันมากๆ เรื่องที่เราอิจฉานั่นก็คือออออออ!!!!! สอบใหญ่!!!!!
          แน้ะๆๆรู้นะว่าคิดอะไรอยู่ คงจะงงกันอยู่ใช่ป่าวววว ที่เราบอกว่าโชคดีไม่ได้หมายถึงเนื้อหาง่ายหรืออะไรนะ (อย่างที่เคยเขียนไปว่าวิชาเยอรมันเราทำไม่ได้เลย😑) แต่ที่โชคดีเนี่ย เพราะเด็กที่นี่เค้าจะเลือกวิชาที่จะสอบได้!!!!! ตอนรู้นี่แบบ ว้อทเดอะ!! ทำไมชีวิตคนเยอรมันมันชิลขนาดนี้ วันๆไม่ต้องเรียนพิเศษ การบ้านก็ไม่มี แล้วทำไมคนจบมาบริหารประเทศมันมีความรู้เยอะจัง (ไม่ได้พาดพิงประเทศบ้านเกิดนะ) คือแบบ เราพึ่งมารู้หลังสอบฟิสิกส์เสร็จว่ามันเลือกได้ว่าจะสอบวิชานี้มั้ย (รู้เพราะถามเด็กแมกซิโกว่าทำไมไม่สอบฟิสิกส์หรอ) แต่ก็โชคดีไปที่วิชาที่สอบเป็นวิชาที่ชอบอยู่แล้ว
     
          อย่างที่บอกไปว่าที่โรงเรียนเราเลือกวิชาเรียนเองได้ โดยโรงเรียนบังคับให้เลือกวิชาวิทยาศาสตร์ 2 วิชา (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) สังคม 2 วิชา (ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์) ศาสนา 1 วิชา (คริสต์คาทอลิก คริสต์โปรแตสแตนท์ ปรัชญา) ภาษาต่างประเทศ 1 ภาษา (สเปน ละติน ฝรั่งเศส) ศิลปะ 1 วิชา (ดนตรี ศิลปะ) แล้วก็บังคับลงเลข พละ เยอรมัน อังกฤษ วิธีให้เกรดที่นี่เนี่ย มันจะมี 2แบบ แบบแรกคือทั้งหมด 100% เป็นคะแนนการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ตอบคำถามครูบ่อยๆ แสดงความคิดเห็นบ่อยๆ แค่นี้แหละ ได้ 100เต็ม พูดเหมือนง่ายแต่จริงๆยากมาก เพราะทุกคนเค้าก็รู้กันว่าถ้าตอบคำถามบ่อยจะได้คะแนนดี เพราะงั้นเลยมีแต่คนแย่งตอบคำถาม แบบสองคือ 50% การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 50% คะแนนสอบ เราจะพูดถึงแบบสองนี่แหละ

          50% คะแนนสอบเนี่ย เป็นแค่เฉพาะบางวิชานะ ก็คือโรงเรียนบังคับว่าทุกคนต้องสอบเลข อังกฤษ เยอรมัน แล้วก็อีก 3 วิชาคือ วิชาในหมวดสังคมที่เราเรียน 1 วิชา วิชาในหมวดวิทย์ 1 วิชา วิชาในหมวดภาษา 1 วิชา แล้วไอวิชาที่เรามีสอบเนี่ยแหละถึงจะเป็นวิชาที่คิดคะแนนแบบ 50-50 เพราะงั้น บางคนเรียนด้วยกัน แต่ไม่เห็นว่าไม่มาสอบก็ไม่ต้องงง แปลว่าเค้าเลือกสอบวิชาอื่นแทน โดยปกติแล้ว วิชาที่คนเค้าสอบกันจะเป็นวิชาที่ถนัด (คะแนนสอบมันได้ยากกว่าคะแนนพูด) ส่วนวันสอบเนี่ย ก็เป็นวันเรียนปกติเลย ไม่มีการหยุดสอบใหญ่แบบไทย แต่ก็ไม่ได้สอบหลายวิชาในวันเดียวเหมือนกัน เท่าที่เห็นจะไม่มีวันสอบซ้ำกันซักวัน แต่เห็นมีเวลาตรงกัน ถ้าเราเลือกสอบวิชาที่เวลาตรงกันก็ซวยไปเพราะว่าเราต้องไปตามสอบทีหลัง แล้วส่วนใหญ่จะเปลี่ยนข้อสอบเป็นข้อสอบที่ยากกว่าเดิม
           วิชาที่เราเลือกสอบเนี่ย ก็มีที่บอกไปว่าบังคับทุกคนคือ เลข เยอรมัน อังกฤษ ส่วนวิชาวิทยาศาสตร์นี่เราเลือกสอบฟิสิกส์ สังคมเราเลือกภูมิศาสตร์ ภาษาต่างประเทศเราไม่ได้สอบเพราะไม่ได้ลง (พอดีไม่เคยเรียนภาษาพวกนี้เลย แล้วถ้าจะเรียนมันต้องมีพื้นฐานก่อน โรงเรียนเลยบอกไม่ต้องลงก็ได้)

ประสบการณ์การสอบ
เยอรมัน : อย่างที่เคยพิมพ์ไป เหมือนไปนั่งให้ปวดตูดเล่น ครูไม่เอาข้อสอบมาคืนด้วยซ้ำ555
อังกฤษ : วิชานี้ก็โอเค อ่านเข้าใจ แต่เขียนไม่ค่อยออกเพราะเค้าบอกให้วิเคราะห์บทความ แต่เราไม่ค่อย
               เข้าใจว่าวิเคราะห์ยังไง ได้เกรด 3
เลข : สบ้ายสบาย พาราโบลา เรียนตั้งแต่ม. 3 จะยากก็ตอนแปลโจทย์นี่แหละ ทำได้ 90% ตอนทำนี่
         มั่นใจมากว่าอย่างแย่สุดก็เกรด 3 ออกมา.....เกรด 4 !!!!!!!!! แบบ ห้ะ!!!!!!!! ตรวจผิดป่ะครู ทำไม
         คะแนนห่วยขนาดนี้ อีกเกรดคือสอบตกแล้วนะเฮ้ย เปิดดูข้อสอบที่แก้ก็แบบ ใครมันจะไปรู้วะว่า
         ห้ามเขียนแบบนี้ แบบ วันหลังเขียนติดหน้ากระดาษว่าห้ามทำอะไรบ้างเลยมั้ยครู (ติดตามต่อได้ใน
         รูปด้านล่าง)                
ฟิสิกส์ : พอๆกับเลขนั่นแหละ แต่ยากกว่าตรงแปลโจทย์ เวลาในการทำ 70% หมดไปกับการนั่งเปิดหา
             ศัพท์ในดิคชันนารี ยังไม่ได้ข้อสอบคืนเลยยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง
ภูมิศาสตร์ : พีคมาก!! พีคจริงอะไรจริง!!!!! ครูให้เอาข้อสอบกลับมาทำที่บ้าน!!!!!!!!!!! คือนี่มันสอบ
                   ใหญ่นะเห้ย!!!!!! แบบ รักครูคนนี้มาก ครูบอกว่าแปลไม่ออกใช่มั้ย งั้นเอากลับไปทำที่บ้าน
                   ละกัน พูดพร้อมกับเอาแผนที่โลกกับข้อสอบมาให้ คือไม่กลัวเราจะโกงข้อสอบหน่อยหรอห้ะ
                   แถมครูบอกมาด้วยว่าเขียนเป็นอังกฤษก็ได้ แบบ อยากจะเข้าไปกราบครู ไม่เคยเจอครูคน
                   ไหนดีขนาดนี้มาก่อน เอาไปบอกโฮสพี่ โฮสพี่  บอกครูคนนี้นิสัยดีอยู่แล้ว  ยังไม่ได้ข้อสอบ
                   คืนเลยยังไม่รู้ผล                

และนั่นก็คือการสอบข้อเขียนทั้งหมดของเรา ส่วนคะแนนการมีส่วนร่วมหรอ ฟังไม่ออกจะไปพูดอะไรได้คะ นั่งเป็นใบ้ทั้งคาบยกเว้นคาบอังกฤษ อังกฤษเราได้เกรด 3- วิชาอื่นยังไม่บอก ส่วนภูมิศาสตร์!!!! รักครูอีกแล้ว ครูบอกว่าเรากับอันนาเด็กแมกซิโก(เรียนด้วยกัน) คงฟังไม่ออกใช่มั้ย(ใช่เลยค่ะครู) เพราะงั้น ครูเลยจะให้พรีเซนต์ภูมิศาสตร์ของเมืองตัวเอง (ของเราก็คือกรุงเทพ อันนาคือแมกซิโกซิตี้) หน้าห้อง เป็นคะแนนการมีส่วนร่วม!!!!!! อยากให้ครูทุกคนเป็นแบบนี้ ครูที่ดีมากๆที่เราเจอที่นี่ก็มีครูคนนี้แหละ ครูอังกฤษ แล้วก็ครูศิลปะ
         
           นั่นแหละ คืออิจฉาอ่ะ เข้าใจป่ะ ไม่ต้องมานั่งท่องวิชาที่ไม่ถนัด ไม่ได้อัดสอบรวดเดียวจบ สอบตามที่เรียน ไม่ออกข้อสอบเกิน ไม่ต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องแข่งกันทำคะแนน การศึกษามีคุณภาพ เด็กจบมาไม่ต้องเข้ามหาลัยก็ทำงานได้เพราะตอนเรียน เรียนเน้นวิชาที่จะใช้จริง อีกกี่ปีประเทศเราจะทำได้อย่างเค้าบ้างเนอะ (งดดราม่า แค่พูดตามที่เห็น)

           สุดท้ายแล้ว (ตรงนี้ไม่ได้มีอะไรสำคัญเลย) ขอแฉคะแนนสอบอันนาหน่อยเหอะ555 เนื่องจากเป็นเด็กแลกเปลี่ยนเหมือนกันอ่ะนะ แต่วิชาที่อันนาสอบไม่ได้เหมือนเราหมดนะ และเรารู้คะแนนแค่บางวิชา

เยอรมัน : สอบได้ 3- !!!!!!!ไอเพื่อนทรยศ!!!!!!!!!! คือมันได้คะแนนมากกว่าคนเยอรมันด้วยกันเองอีก!!!
อังกฤษ : ได้ 3+
เลข : ได้เกรด 6........สงสารอันนามากๆ คือแถบอเมริกาเรียนเลขกันง่ายไง เกิดมาเค้ายังไม่เคยเรียน
         พาราโบลาเลย เพราะงั้นเค้าเลยไม่เข้าใจเวลาครูสอน (แต่เห็นเด็กไทยบางคนมาที่นี่ก็เรียนเลข        
         ไม่เข้าใจนะ คงเพราะอยู่สายศิลป์ด้วยแหละ)
สเปน : คงไม่ต้องบอกแหละเนอะ แมกซิโกใช้ภาษาทางการเป็นภาษาสเปน ดังนั้น........เกรด 1+ ลอยมา
           ตั้งแต่ลงเรียนแล้ว5555 มันคงเก่งกว่าครูที่สอนด้วยซ้ำเพราะครูเป็นคนเยอรมัน555 คงต้องสลับ
           คนสอนแล้วมั้ง


อันนี้ข้อสอบเลขที่บ่นไป ในรูปเป็นของเพื่อนเพราะลืมถ่ายของตัวเองไว้ ไอตรงข้อ 5 อ่ะ ตัวแปร f(x)
เราดันไปเขียนตัวแปร y นั่นแหละ โดนหักคะแนนเกือบทุกข้อ


อีกอันที่โมโหมากๆ(ไม่มีรูป) คือกราฟพาราโบลา เราเขียนกราฟแบบไทย มีหัวลูกศร
ตรงแกน x แกน y กับตรงพาราโบลาที่มันเป็นปลายกราฟ 2 เส้น แค่นั้นแหละ หัก 3 คะแนน
จาก 5 คะแนน !!!!! คือถ้าครูไม่หักพวกนี้นี่เราได้เกรด 3 แล้วอ่ะ เซ็งมากๆๆๆๆ












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Comments