วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

อาหารเยอรมัน!!!!

            วู้ววววววว ในที่สุดก็มาถึงหัวข้อที่(เรา)รอคอย!!! อาหารนั่นเอง!!!!
            ทุกคนคงรู้ว่าอาหารขึ้นชื่อเยอรมันคืออะไรเนอะ ก็มี ไส้กรอก ขาหมู เบียร์ คงจะรู้กันอยู่แค่นี้แหละ แถมบางคนคงคิดว่าจะได้กินบ่อยๆ  แต่ของจริงมันไม่ใช่แบบที่คิด! ถ้าคิดว่าจะได้กินไอ 3 อย่างนั้นทุกวันก็คิดใหม่ซะ

ไล่ตั้งแต่เช้ายันเย็นในวันธรรมดา
เช้า : แล้วแต่วัน ปกติกินซีเรียล บางวันกินขนมปังโฮลวีตแข็งๆ เรียกไม่ถูกใส่พวกแฮม ไม่ก็ทาแยม
        บางทีก็ครัวซอง
เที่ยง : คนปกติก็กินขนมปังเรียก Brötchen แต่เรากินขนมปังโฮลวีตแบบเดิม ใส่แฮมใส่เนย อยากใส่
           อะไรก็ได้ บางวันกินสลัดผัก บางวันกินสปาเก็ตตี้ บางวันเลิกเร็วโฮสก็บอกให้ทำอาหารไทยให้
           กินหน่อย😳
เย็น : ขนมปังอีกแล้วววว😑 แต่เฉพาะโฮสเรานะที่กินขนมปังตอนเย็น เห็นคนอื่นกินพวกซุปอะไรแบบนี้
         ขนมปังตอนเย็นก็จะมีหลายแบบหน่อย เป็น Brötchen ไม่ก็ baguette ไม่ก็ขนมปังโฮลวีต บางทีก็กิน
         ที่เหลือจากตอนเที่ยง
หลังเย็น : โฮสพ่อกับแม่กินเบียร์ เรากับพี่กินโยเกิร์ต

เช้ายันเย็นวันไม่ธรรมดา(วันหยุดเสาร์อาทิตย์นั่นแหละ😑)
เช้า : Brötchen กับ Baguette แล้วก็ไข่ต้มด้วย
เที่ยง : โฮสชอบกินมันฝรั่งใส่ครีมใส่เบคอนใส่ชีส(อ้วนมาก ไม่รู้ทำไมโฮสผ้อมผอม) ไม่ก็ลาซานย่า
หลังเที่ยง : โฮสพ่อกับพี่ชอบกินขนม ก็จะกินเค้ก ไม่ก็ไอติม บางทีโฮสพ่อทำข้าวใส่นม เค้าเรียก  
                   Milchreis อ่ะ รสชาติเหมือนข้าวเหนียวมูน
เย็น : ขนมปังแบบวันธรรมดา ไม่ก็ที่เหลือจากตอนเที่ยง บางทีก็กินพิซซ่า
หลังเย็น : โฮสพ่อกับแม่กินเบียร์ เรากินโยเกิร์ต

จากที่เขียนมานี่ สรุปได้ว่า ไม่มีขาหมู ไส้กรอกกินเวลาเข้าเมือง เบียร์กินทุกวันเลย555 โอเค ถือว่าไม่ได้ทำลายความหวังของคนที่มาที่นี่เพราะเบียร์เนอะ555 (เอาจริงๆ คนเยอรมันบางคนก็ไม่ได้ชอบกินเบียร์นะ แต่พอดีโฮสแม่กับโฮสพ่อชอบมาก)  กิน Brötchen บ่อย กินขนมปังบ่อย ถ้าทำอาหารปกติจะทำอาหารจากมันฝรั่ง

จบแล้วสำหรับอาหารที่กินปกติ คราวนี้มาถึงอาหาร+ขนมที่ต้องลองกินแล้วววววว

ปล.เราไม่ชอบกินชีสนะ
ปล.2 เราชอบกินดาร์คช้อกโกแลตมากๆ ชอบช็อกโกแลตที่รสชาติเข้มๆหน่อย

อย่างแรก! Currywurst!!!! หากินง่ายมากๆ มันคือไส้กรอกราดซอสอะไรซักอย่าง อร้อยอร่อย ปกติกินกับเฟรนฟรายนะ ในภาพคือผิดปกติ555 ราคาปกติ 2.9-4.5 ยูโร


อย่างที่ 2 ! Bratwurst!!!!  มันคือ Currywurst แบบไม่ราดซอสแกงกะหรี่นั่นแหละ กินกับขนมปัง

อย่างที่ 3! Pommes!!!! เฟร้นฟรายนั่นแหละ แต่มันอร่อยอ่ะ ไม่มีภาพเพราะมันคือเฟรนฟรายปกติจริงๆ

อย่างที่ 4! ไอติมเจลาโต้!!!! มาถึงก็รีบๆกินเพราะยังเป็นหน้าร้อนอยู่ ปกติราคา 0.9-1.2 ยูโร


อย่างที่ 5! Lindt!!!! อย่าสงสัยว่าทำไมมาเยอรมันแล้วกินช้อกโกแลต เรารู้แต่ว่ามันอร่อยและที่ไทยหาซื้อไม่ค่อยได้ จากการสำรวจเกือบครบทุกรสพบว่ารส dark chocolate cookie อร่อยสุด555 กรุบๆขมๆหน่อย เราชอบซื้อแบบแท่งยาวๆแบบในภาพอ่ะ มันกินง่ายดี

อย่างที่ 6! Ferrero!!!! ช้อกโกแลตอีกแล้ว555 ไม่ใช่แบบลูกๆนะ อันนั้นที่ไทยก็มี หมายถึง yogurette รสโยเกิร์ตสตรอเบอรี่ กับ Giotto รส hazelnut ไม่ก็ รสดาร์คช้อกโกแลต



อย่างที่ 7! Haribo!!!! มันมีต้นกำเนิดที่เมือง Bonn ของเยอรมัน ใครมาก็ต้องกินทุกคนแหละ 
ในภาพคือโฮสซื้อแพ็คใหญ่มาใส่ปี๊บไว้กินเล่น


อย่างที่ 8! ของในเบเกอรี่ทั้งหลาย ไม่มีอะไรหรอก แค่เราไม่ค่อยเห็นขนมปังกับเค้กแบบนี้ในไทย

Pflaumenkuchen เค้กที่ทำจากผลไม้อะไรก็ไม่รู้ ในภาพคือหาจากกูเกิ้ลเอา


Blackforest cake ต้นกำเนิดก็เยอรมันนี่แหละ


อย่างที่ 9! Chipsfrisch!!!! มันคือเลย์สัญชาติเยอรมัน รส Currywurst อร่อยมากๆ


อย่างที่ 10! เบียร์ประจำเมือง!!!! แหน่ะๆ ต่ำกว่า16ห้ามกินนะจ๊ะ(พูดแล้วเข้าตัว555) คือแต่ละเมืองจะมีเบียร์ของตัวเองเลย อย่างเราอยู่ที่ Köln ก็จะมีเบียร์ชื่อ Kölsch เห็นคนบอกเบียร์แต่ละเมืองรสชาติไม่เหมือนกัน เบียร์เมืองไหนอร่อยคนในเมืองนั้นก็จะภูมิใจมาก


อย่างที่ 11! Quark ball!!!!! มันคืออะไรไม่รู้ Quark มันจะเป็นอะไรซักอย่างคล้ายๆโยเกิร์ตแต่เปรี้ยวกว่า
อันนี้มันเหมือนแป้งผสม Quark (มั้ง) แล้วเอาไปทอด โรยไอซิ่ง เปรี้ยวๆนิดนึง หน้าตาคล้ายๆโดนัท
ขอบคุณรูปประกอบจากกูเกิ้ล


อย่างที่12! Schnitzel !!!!! มันคือหมูชุบแป้งทอดนี่แหละ ไม่มีไร 
ขอบคุณรูปประกอบจากกูเกิ้ล



อย่างที่ 13! Glühwein!!!!!!! มันคือไวน์ร้อน มีขายช่วงคริสมาสในคริสมาสมาร์เกต ไม่ก็เมืองที่หนาวๆจะมีขายตลอด 
รูปจากกูเกิ้ลอีกแล้ว



ส่วนอาหารที่เราไม่ชอบนะ 

Sauerkraut ซุปอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่เกลียดมากๆ จากที่เห็นนะ พวกผู้ใหญ่จะชอบกินกัน แต่เด็กจะเกลียดมาก อย่างโฮสพี่เราทั้งสองคน ญาติโฮส Betreuer เราที่อายุ18 จะไม่ชอบกิน แต่พวกพ่อๆแม่ๆนี่ชอบมาก

Reibekuchen  มันคือมันฝรั่งบดแล้วเอาไปทอด กินกับซอสแอปเปิ้ล ตอนแรกๆก็โอเคนะ แต่กินๆไปเลี่ยนมากๆ
รูปจากกูเกิ้ล



อาหารที่ติดคำว่า Bio มันคืออาหารที่ปลูกแบบธรรมชาติ ไม่ใช้สาร ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เราว่าซื้อแบบธรรมดาอร่อยกว่า 555

โกโก้!!! ติดมาได้แบบไม่น่าเชื่อ!! จริงๆเราชอบกินโกโก้มากเลยนะ แต่โกโก้ที่นี่แบบ รสชาติมันอ่อนอ่ะ มันไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่ เวลาเราอยากกินเลยต้องชงเอง (ผงโกโก้ที่นี่ชอบเป็นแบบสำเร็จรูป แบบมีน้ำตาลผสมให้แล้ว เราว่ามันหวานไปเลยต้องเอาผงโกโก้ทำขนมมาชง) ในภาพคือของสตาร์บั๊ค ไม่ได้ถ่ายแบบเปิดฝาอ่ะ อยากรู้สีไปดูแก้วข้างๆ Blackforest cake ด้านบน
















วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เจอโฮสต์ครั้งแรก !!+กิจวัตร

     สวัสดีวันเสาร์ วันนี้เราจะมาพูดในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับดวงเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือเรื่อง โฮสต์แฟมิลี่!!
     ส่วนใหญ่น่าจะมีประสบการณ์การรอโฮสที่ต่างกัน บางคนได้ตั้งแต่ 3 เดือนแรก บางคนได้ก่อนไปไม่กี่อาทิตย์ ก็แล้วแต่ดวงกันไป บางคนได้โฮสดี บางคนได้โฮสแย่ ก็แล้วแต่ดวงอีก ส่วนเรานี่ได้โฮสที่ดี(มาก) 

      ของเรานะ(อันนี้คือประสบการณ์การรอโฮส ไม่ต้องอ่านก็ได้แต่อยากเขียน555) ตอนรอคือตื่นเต้นมากกกกกกก มันคือการรอแบบไม่มีจุดหมายอ่ะ คือไทม์ไลน์เรานะ เหลืออีก 6 เดือน.....เดี๋ยวก็ได้......3เดือนถัดมา....ช้าๆได้พร้าเล่มงาม....เหลืออีก1เดือนกว่า.....เราได้โฮสแล้ว! แต่โฮสมีลูกเป็นเด็กออทิสติกแถมพ่อแม่ไม่ยอมบอกว่าทำงานอะไร YFU เค้าก็ถามว่าโอเครึเปล่า เราเห็นว่ามันดูแปลกๆเลยปฏิเสธไป จากนั้นก็รอออออ รอยาวเลยTT...จนวันประชุม yfu รอบสุดท้ายก่อนไป(เหลืออีก3อาทิตย์)....เฮ้ย ทำไมยังไม่ได้วะ ไหนบอกวีซ่าใช้เวลา 3 อาทิตย์ไง ที่บ้านก็บ่นว่าได้โฮสช้ามาก แถมพี่สาวยังมีการพูดซ้ำเติมว่าคงไม่มีใครอยากรับเด็กแลกเปลี่ยนที่บอกว่าตัวเองขี้อายหรอก (ในเอกสารที่ให้เขียนนิสัยตัวเองกับสาเหตุที่มาแลกเปลี่ยนเราเขียนไปว่าขี้อายกับอยากมั่นใจในตัวเอง) ไอเพื่อนก็ช่วยกันอวยพรจั๊งว่าขอให้ไม่ได้โฮสๆ  เพื่อน yfu ก็มีแต่คนบอกได้โฮสแล้วๆ  คือเครียดมากกกกกก ทั้งโดนตัดกำลังใจ โดนสาปแช่ง โดนบลั๊ฟจากเพื่อนคนนู้นคนนี้ ตอนนั้นคือกลัวไม่ได้ไปสุดๆ บอกเลยว่าเปิดมือถือรอเมลล์ที่YFUจะส่งมาแทบจะทั้งวัน เวลามีเมลล์เข้าทีนี่รีบเปิดอ่าน เปิดดูปั๊บ! จดหมายข่าว YFU ก็เซ็งไป....เมลล์เด้งอีก! ก็เปิดอีก....เพื่อนในเฟสบุ๊คแท็คคุณ....แทบจะลบแอคเค้าเฟสบุ๊คทิ้ง555 ผ่านไปอีก1อาทิตย์ก็ยังไม่ได้ ช่วงนั้นคือจิตตกมาก ต้องรอที่ไทยก่อนหรอ ลาเรียนไปแล้วทำไงดี  บลาๆๆ แต่ในที่สุด! เราได้โฮสก่อนไปอาทิตย์กว่าๆ อื้มหืมมมมมม น้ำตาแทบไหล(เพื่อนที่รรนี่มีแต่คนบอกเสียดาย ไม่น่าได้โฮสเลยจะได้อยู่ไทยต่อไป555) โฮสเราประกอบไปด้วย โฮสแม่ พ่อ พี่สาว(17) แล้วก็พี่ชาย(19) พอรู้ชื่อโฮส รู้อีเมลล์ก็จัดการส่งเมลล์ไปทักทายพร้อมกับขอรูปภาพโฮส(เค้าไม่ได้ให้มากับเอกสาร) ระหว่างรอโฮสตอบกลับก็จัดการเสริชรูปโฮสสิคะรออะไร เฟสบุ๊ค ไอจี มีอะไรบ้างเสริชหมด555 แต่หาไม่เจอเลย สุดท้ายมาเจอรูปโฮสแม่จากการเสิร์ชกูเกิ้ล เป็นรูปโฮสแม่มาช่วยผู้ประสบภัยสึนามิในอินโดนีเซีย ที่เรามั่นใจว่าเป็นโฮสแม่เพราะอายุกับหน้าตาสัมพันธ์กัน55

       ปล. ขอขอบคุณทุกกำลังใจและการซ้ำเติมทั้งหลาย ในที่สุดเราก็มีวันนี้

      สรุปแล้ว ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี โฮสส่งรูปมา ดูเป็นครอบครัวอบอุ่น เราคิดว่าที่ได้โฮสช้าส่วนนึงคงเพราะเราปฏิเสธโฮสคนแรกไปด้วยแหละ ใครที่กลัวจะไม่ได้โฮสก็ใจร่มๆเอาไว้ลูก คนได้ก่อนไปวันเดียวยังมี ที่สำคัญคือได้โฮสดีไม่ใช่ได้โฮสเร็ว (อูววววววววววว คมไปอีกกกกกกกก)

       เข้าเรื่อง(ออกทะเลไปไกลมาก) วันแรกที่เจอโฮสเนี่ยเป็นวันเสาร์ โฮสเค้ามารับเราที่บ้านโฮส 3 อาทิตย์(ในขณะที่เพื่อนคนอื่นต้องนั่งรถไฟไป) โฮสที่มาก็มี โฮสพ่อ แม่ พี่ชาย ส่วนพี่สาวไปติวเตรียมเข้ามหาลัยก็เลยมาไม่ได้ พอมาถึงบ้านปุ้บ เราก็เอาของไปเก็บในห้อง พอลงมาโฮสแม่ก็อธิบายวันเวลาว่าใครอยู่บ้านตอนไหน ไปทำงานกี่โมง เวลาไหนโฮสอาบน้ำ งานอดิเรก แล้วก็อธิบายกฎนู่นนี่นั่น เรามีเรื่องที่ติดใจมากว่าทำไมได้โฮสช้า(เก็บกด) เราก็เลยลองพูดๆไปหน่อยว่า เนี่ย เรากลัวไม่ได้โฮสมากเลยรู้มั้ย ขอบคุณมากที่รับเรา แล้วโฮสแม่ก็บอกว่าเค้าเลือกรับเราตั้งนานแล้ว แต่พอดีทำเอกสารช้า yfu เลยบอกช้า ที่เค้าเลือกเราเนี่ยเป็นเพราะเราเขียนว่าสาเหตุที่มาแลกเปลี่ยนเพราะอยากมั่นใจในตัวเองและที่กรอกเอกสารไปว่าชอบทำอะไรไม่ชอบอะไร โฮสบอกว่าเราเขียนเหมือนโฮสพี่สาวตอนจะไปแลกเปลี่ยนเด๊ะๆเลย เค้าเลยเลือกรับเรา! (อยากอัดคลิปให้พี่ดูมากๆ ตอนแรกพี่นี่บ่นใหญ่เรื่องโฮส) ตอนเย็นโฮสก็พาไปดูทางไปโรงเรียนก่อน แล้วก็กลับบ้าน กินข้าวเย็น นอน เรากะจะให้ของฝากตอนวันแรก แต่ก็ที่บอกไปว่าโฮสพี่สาวไม่อยู่ เราเลยไม่ได้ให้ กะจะให้ทีเดียวตอนอยู่กันครบ

        วันต่อมา ตอนเช้าก็ตื่นมาตอน7โมงกว่าๆ ปรากฏว่าไม่มีใครตื่นเลย...เราก็ลงมานั่งเล่นตรงห้องรับแขก เสร็จแล้วโฮสพ่อกับโฮสแม่ถึงค่อยลงมา ก็กินข้าวเช้า เสร็จแล้วโฮสพ่อก็จะไปรับโฮสพี่สาวที่อีกเมือง เราก็นั่งรถไปด้วย ระหว่างทางโฮสก็อธิบายว่าอันนี้เป็นถนนใหญ่ ห้ามขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ที่นี่นะ แล้วก็ชี้พวกปราสาทที่อยู่บนภูเขาระหว่างทางให้ดู คือบรรยากาศมันดีมากกกกกกกกก โฮสเปิดกระจกรถให้ลมพัดเข้ามา ลมก็เย็นๆสบายๆ รถก็ไม่ติด บ้านเมืองก็สวย ตรงนี้บ้านคน อีกฝั่งเป็นภูเขา คือเรานี่แบบ 'ขออยู่นี่จนแก่เลยได้ป่าว' คือชีวิตเค้าดูชิลมากอ่ะ เปรียบเทียบบ้านเรากับที่นี่แล้วอิจฉาสุดๆ อยากเกิดใหม่เป็นคนเยอรมัน(เวอร์ไป แต่ถ้าทำได้ก็ทำ555) ก็ได้แต่อิจฉาไป....นั่งๆอิจฉาอยู่พักนึงก็ไปถึงที่ติวโฮสพี่ เราก็นั่งรอแป้บนึงก็เห็นโฮสพี่เดินลงมา เห็นตอนแรกคืองงเลยว่าทำไมรูปไม่ค่อยเหมือนตัวจริง ตัวจริงนี่ผอมกว่าในรูป คือในรูปจะดูปกติ แต่ตัวจริงคือผอมอ่ะ ไม่ได้ผอมขนาดนั้นแต่ผอมกว่าที่คิดไว้พอสมควรเลย ก็ทักทายกันไม่ได้มีไรมาก พอกลับบ้าน โฮสพี่บอกการบ้านเยอะมากกกกกก ต้องรีบทำ เราก็คิดว่าคงทำซักชมหรือ2ชม แต่! 30นาทีต่อมา นางเดินลงมาจากห้อง บอกว่าเสร็จแล้ว...อ่ะ...ก็ต้องเข้าใจแหละว่ามาตรฐานจำนวนการบ้านมันต่างกันTT พอโฮสพี่ลงมาด้านล่างปั้บ เค้าเปิดวิทยุฟังเพลงแล้วก็ทำบราวนี่ ทำๆไปซักพัก....อยู่ๆนางก็เต้น! งงเลย อยู่ๆก็แบบ โยกตัวซ้ายขวา มือ เท้า ทุกอย่างไปหมด555 โยกตัว สะบัดหัวนิดหน่อย ตลกดี555 (เพลงที่เปิดบ่อยๆชื่อ wir sind groß) ระหว่างเต้นนี่ก็มีมาคนๆบราวนี่นิดหน่อย สรุปแล้วก็ทำบราวนี่จนเสร็จนะ พอมาตอนกินข้าว เราจะให้ของขวัญโฮส โฮสพี่ชายไม่อยู่ WTF... ก็ไม่ได้ให้อีก กินเสร็จโฮสพี่ก็ชวนเล่นเกมกระดาน เล่นกัน3คนกับโฮสพี่โฮสพ่อ โฮสแม่ไม่ชอบเล่นก็นั่งกินเบียร์ดูเราเล่นไป โฮสพ่อก็กินด้วย เล่นเสร็จ โฮสพ่อแพ้...โฮสพี่ก็บอกว่าเวลากินเบียร์โฮสพ่อไม่เคยเล่นชนะเลย555 โฮสพ่อก็บ่นๆว่าไม่ได้กินแบบมีแอลกอฮอล์ซักหน่อย โฮสพี่ก็บอกว่ายังไงก็แพ้อยู่ดี พอจะขึ้นห้องไปนอนโฮสพี่ก็บอกว่าพรุ่งนี้เราต้องไปรรพร้อมกัน แล้วโฮสพ่อบอกเราอาจไปสายหน่อยเพราะโฮสพี่ชอบตื่นสาย555 โฮสพี่ก็ไม่ได้พูดอะไร(เพราะเถียงไม่ออก555) เสร็จแล้วก็ขึ้นห้องไปนอน


       วันธรรมดา : ตารางเรียนเรากับโฮสพี่ไม่ค่อยเหมือนกันเลยไม่ค่อยได้ไปรรด้วยกัน ตื่นเช้ามาก็แปรงฟัน ล้างหน้าลงมากินข้าวก็เจอโฮสพ่อโฮสแม่ โฮสพี่สาวจะกินข้าวช้ากว่าเราหน่อย โฮสพี่ชายนี่ไม่เคยเจอก่อน9โมง...พักกลางวันก็กลับมากินข้าวบ้าน ประหยัดดี ตอนกินข้าวกลางวันก็จะเจอโฮสพี่สาวกับพี่ชาย บางทีจะมีเพื่อนโฮสพี่มากินข้าวด้วย ส่วนโฮสพ่อกับโฮสแม่ก็ทำงานอยู่ พอเลิกเรียนเสร็จ กลับบ้านมาก็ทำการบ้าน ถ้าทำไม่ได้ก็ถามโฮส แล้วก็กินข้าวเย็นด้วยกัน บางวันโฮสแม่จะไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยเพราะต้องไปทำงาน กินเสร็จโฮสพี่สาวกับพ่อก็จะเล่นเกมกระดานกัน ขอบอกเลยว่ามีเยอะมากกกกกกกกก มีตั้งไว้เป็นตู้เลย โฮสพี่ชายกับโฮสแม่ไม่ชอบเล่นก็จะกลับขึ้นห้องไม่ก็นั่งดูเราเล่น เล่นเสร็จแล้วก็ขึ้นนอน 

      เสาร์อาทิตย์ : ตื่นมาก็เจอโฮสพ่อกับโฮสแม่ โฮสพี่ตื่นสายมากกกกกกก ไม่ค่อยเจอตอนกินข้าวเช้าเลย กินเสร็จแล้วโฮสก็เอาหนังสือพิมพ์มาแล้วก็บอกให้เราอ่านจะได้ฝึกภาษา คำไหนไม่รู้ก็ถามโฮส หลังจากนั้นโฮสก็จะไปซื้อของ บางทีก็นั่งรถไปเมืองอื่นเล่นๆ ไม่กินข้าวเที่ยง กินเค้กช่วงสายๆแทน พอวันอาทิตย์ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเพราะร้านค้าปิดหมด แต่บางครั้งโฮสแม่ไปร้องคอรัสที่โบสถ์แถวบ้าน เราก็ตามไปฟังด้วย เสาร์อาทิตย์เป็นช่วงพักผ่อนของคนเยอรมันอ่ะ ไม่ค่อยทำงาน นานๆจะมีงานเสาร์อาทิตย์ที ไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ เป็นวันชิลๆ

 ข้อคิด : 1.ตอนกรอกเอกสาร เขียนอะไรที่เป็นตัวเราจริงๆ! ย้ำ!ต้องเป็นเรื่องจริง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้โฮส  
                 ควรกลัวว่าจะได้โฮสที่เข้ากับเราไม่ได้มากกว่าอีก  
              2.มาถึงก็ถามเรื่องกฎในบ้านเลย ถามเวลาใช้ห้องน้ำด้วยก็ดี 
              3.โฮสทำอะไรเราก็ทำตาม อย่างของเราต้องปิดฝาชักโครกหลังใช้ 
              4. โฮสชวนทำอะไรก็ทำไปเถอะถ้ามันไม่ผิดกฎหมาย
              5. แต่ถ้าไม่อยากทำก็บอกไปเลย






     2 อันนี้คือเกมที่ชอบเล่นกัน


แถวบ้านเราเอง



อันนี้ถ่ายตอนไปเดินเขากับโฮสแม่ 


สวยล่ะสิ!!!!! แถวบ้านอีกเหมือนกัน 5555 วิวสวยมีชัยไปกว่าครึ่ง ขนาดใช้กล้องมือถือถ่ายก็ยังสวย


 ถ่ายจากรถไฟ


สัญลักษณ์เมืองเราเอง!!!! ต้นสนในภาพคือเตรียมงานคริสมาสอยู่ เค้าเตรียมงานคริสมาสมาร์เก็ตกันเป็นเดือนเลย

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สอบ!!! Klausur

          สวัสดีทุกคน! ขอโทษที่หายไปนาน(มากๆ) ยอมรับเลยว่าไม่ได้ไม่ว่าง ว่างทุกวันแต่แค่ขี้เกียจเฉยๆ(รักนะจุ้ฟๆ😘)  ที่วันนี้มาเขียนเนี่ย เพราะรู้สึกอยากระบายและอิจฉาในความโชคดีของเด็กเยอรมันมากๆ เรื่องที่เราอิจฉานั่นก็คือออออออ!!!!! สอบใหญ่!!!!!
          แน้ะๆๆรู้นะว่าคิดอะไรอยู่ คงจะงงกันอยู่ใช่ป่าวววว ที่เราบอกว่าโชคดีไม่ได้หมายถึงเนื้อหาง่ายหรืออะไรนะ (อย่างที่เคยเขียนไปว่าวิชาเยอรมันเราทำไม่ได้เลย😑) แต่ที่โชคดีเนี่ย เพราะเด็กที่นี่เค้าจะเลือกวิชาที่จะสอบได้!!!!! ตอนรู้นี่แบบ ว้อทเดอะ!! ทำไมชีวิตคนเยอรมันมันชิลขนาดนี้ วันๆไม่ต้องเรียนพิเศษ การบ้านก็ไม่มี แล้วทำไมคนจบมาบริหารประเทศมันมีความรู้เยอะจัง (ไม่ได้พาดพิงประเทศบ้านเกิดนะ) คือแบบ เราพึ่งมารู้หลังสอบฟิสิกส์เสร็จว่ามันเลือกได้ว่าจะสอบวิชานี้มั้ย (รู้เพราะถามเด็กแมกซิโกว่าทำไมไม่สอบฟิสิกส์หรอ) แต่ก็โชคดีไปที่วิชาที่สอบเป็นวิชาที่ชอบอยู่แล้ว
     
          อย่างที่บอกไปว่าที่โรงเรียนเราเลือกวิชาเรียนเองได้ โดยโรงเรียนบังคับให้เลือกวิชาวิทยาศาสตร์ 2 วิชา (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) สังคม 2 วิชา (ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ ภูมิศาสตร์) ศาสนา 1 วิชา (คริสต์คาทอลิก คริสต์โปรแตสแตนท์ ปรัชญา) ภาษาต่างประเทศ 1 ภาษา (สเปน ละติน ฝรั่งเศส) ศิลปะ 1 วิชา (ดนตรี ศิลปะ) แล้วก็บังคับลงเลข พละ เยอรมัน อังกฤษ วิธีให้เกรดที่นี่เนี่ย มันจะมี 2แบบ แบบแรกคือทั้งหมด 100% เป็นคะแนนการมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ตอบคำถามครูบ่อยๆ แสดงความคิดเห็นบ่อยๆ แค่นี้แหละ ได้ 100เต็ม พูดเหมือนง่ายแต่จริงๆยากมาก เพราะทุกคนเค้าก็รู้กันว่าถ้าตอบคำถามบ่อยจะได้คะแนนดี เพราะงั้นเลยมีแต่คนแย่งตอบคำถาม แบบสองคือ 50% การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน 50% คะแนนสอบ เราจะพูดถึงแบบสองนี่แหละ

          50% คะแนนสอบเนี่ย เป็นแค่เฉพาะบางวิชานะ ก็คือโรงเรียนบังคับว่าทุกคนต้องสอบเลข อังกฤษ เยอรมัน แล้วก็อีก 3 วิชาคือ วิชาในหมวดสังคมที่เราเรียน 1 วิชา วิชาในหมวดวิทย์ 1 วิชา วิชาในหมวดภาษา 1 วิชา แล้วไอวิชาที่เรามีสอบเนี่ยแหละถึงจะเป็นวิชาที่คิดคะแนนแบบ 50-50 เพราะงั้น บางคนเรียนด้วยกัน แต่ไม่เห็นว่าไม่มาสอบก็ไม่ต้องงง แปลว่าเค้าเลือกสอบวิชาอื่นแทน โดยปกติแล้ว วิชาที่คนเค้าสอบกันจะเป็นวิชาที่ถนัด (คะแนนสอบมันได้ยากกว่าคะแนนพูด) ส่วนวันสอบเนี่ย ก็เป็นวันเรียนปกติเลย ไม่มีการหยุดสอบใหญ่แบบไทย แต่ก็ไม่ได้สอบหลายวิชาในวันเดียวเหมือนกัน เท่าที่เห็นจะไม่มีวันสอบซ้ำกันซักวัน แต่เห็นมีเวลาตรงกัน ถ้าเราเลือกสอบวิชาที่เวลาตรงกันก็ซวยไปเพราะว่าเราต้องไปตามสอบทีหลัง แล้วส่วนใหญ่จะเปลี่ยนข้อสอบเป็นข้อสอบที่ยากกว่าเดิม
           วิชาที่เราเลือกสอบเนี่ย ก็มีที่บอกไปว่าบังคับทุกคนคือ เลข เยอรมัน อังกฤษ ส่วนวิชาวิทยาศาสตร์นี่เราเลือกสอบฟิสิกส์ สังคมเราเลือกภูมิศาสตร์ ภาษาต่างประเทศเราไม่ได้สอบเพราะไม่ได้ลง (พอดีไม่เคยเรียนภาษาพวกนี้เลย แล้วถ้าจะเรียนมันต้องมีพื้นฐานก่อน โรงเรียนเลยบอกไม่ต้องลงก็ได้)

ประสบการณ์การสอบ
เยอรมัน : อย่างที่เคยพิมพ์ไป เหมือนไปนั่งให้ปวดตูดเล่น ครูไม่เอาข้อสอบมาคืนด้วยซ้ำ555
อังกฤษ : วิชานี้ก็โอเค อ่านเข้าใจ แต่เขียนไม่ค่อยออกเพราะเค้าบอกให้วิเคราะห์บทความ แต่เราไม่ค่อย
               เข้าใจว่าวิเคราะห์ยังไง ได้เกรด 3
เลข : สบ้ายสบาย พาราโบลา เรียนตั้งแต่ม. 3 จะยากก็ตอนแปลโจทย์นี่แหละ ทำได้ 90% ตอนทำนี่
         มั่นใจมากว่าอย่างแย่สุดก็เกรด 3 ออกมา.....เกรด 4 !!!!!!!!! แบบ ห้ะ!!!!!!!! ตรวจผิดป่ะครู ทำไม
         คะแนนห่วยขนาดนี้ อีกเกรดคือสอบตกแล้วนะเฮ้ย เปิดดูข้อสอบที่แก้ก็แบบ ใครมันจะไปรู้วะว่า
         ห้ามเขียนแบบนี้ แบบ วันหลังเขียนติดหน้ากระดาษว่าห้ามทำอะไรบ้างเลยมั้ยครู (ติดตามต่อได้ใน
         รูปด้านล่าง)                
ฟิสิกส์ : พอๆกับเลขนั่นแหละ แต่ยากกว่าตรงแปลโจทย์ เวลาในการทำ 70% หมดไปกับการนั่งเปิดหา
             ศัพท์ในดิคชันนารี ยังไม่ได้ข้อสอบคืนเลยยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง
ภูมิศาสตร์ : พีคมาก!! พีคจริงอะไรจริง!!!!! ครูให้เอาข้อสอบกลับมาทำที่บ้าน!!!!!!!!!!! คือนี่มันสอบ
                   ใหญ่นะเห้ย!!!!!! แบบ รักครูคนนี้มาก ครูบอกว่าแปลไม่ออกใช่มั้ย งั้นเอากลับไปทำที่บ้าน
                   ละกัน พูดพร้อมกับเอาแผนที่โลกกับข้อสอบมาให้ คือไม่กลัวเราจะโกงข้อสอบหน่อยหรอห้ะ
                   แถมครูบอกมาด้วยว่าเขียนเป็นอังกฤษก็ได้ แบบ อยากจะเข้าไปกราบครู ไม่เคยเจอครูคน
                   ไหนดีขนาดนี้มาก่อน เอาไปบอกโฮสพี่ โฮสพี่  บอกครูคนนี้นิสัยดีอยู่แล้ว  ยังไม่ได้ข้อสอบ
                   คืนเลยยังไม่รู้ผล                

และนั่นก็คือการสอบข้อเขียนทั้งหมดของเรา ส่วนคะแนนการมีส่วนร่วมหรอ ฟังไม่ออกจะไปพูดอะไรได้คะ นั่งเป็นใบ้ทั้งคาบยกเว้นคาบอังกฤษ อังกฤษเราได้เกรด 3- วิชาอื่นยังไม่บอก ส่วนภูมิศาสตร์!!!! รักครูอีกแล้ว ครูบอกว่าเรากับอันนาเด็กแมกซิโก(เรียนด้วยกัน) คงฟังไม่ออกใช่มั้ย(ใช่เลยค่ะครู) เพราะงั้น ครูเลยจะให้พรีเซนต์ภูมิศาสตร์ของเมืองตัวเอง (ของเราก็คือกรุงเทพ อันนาคือแมกซิโกซิตี้) หน้าห้อง เป็นคะแนนการมีส่วนร่วม!!!!!! อยากให้ครูทุกคนเป็นแบบนี้ ครูที่ดีมากๆที่เราเจอที่นี่ก็มีครูคนนี้แหละ ครูอังกฤษ แล้วก็ครูศิลปะ
         
           นั่นแหละ คืออิจฉาอ่ะ เข้าใจป่ะ ไม่ต้องมานั่งท่องวิชาที่ไม่ถนัด ไม่ได้อัดสอบรวดเดียวจบ สอบตามที่เรียน ไม่ออกข้อสอบเกิน ไม่ต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องแข่งกันทำคะแนน การศึกษามีคุณภาพ เด็กจบมาไม่ต้องเข้ามหาลัยก็ทำงานได้เพราะตอนเรียน เรียนเน้นวิชาที่จะใช้จริง อีกกี่ปีประเทศเราจะทำได้อย่างเค้าบ้างเนอะ (งดดราม่า แค่พูดตามที่เห็น)

           สุดท้ายแล้ว (ตรงนี้ไม่ได้มีอะไรสำคัญเลย) ขอแฉคะแนนสอบอันนาหน่อยเหอะ555 เนื่องจากเป็นเด็กแลกเปลี่ยนเหมือนกันอ่ะนะ แต่วิชาที่อันนาสอบไม่ได้เหมือนเราหมดนะ และเรารู้คะแนนแค่บางวิชา

เยอรมัน : สอบได้ 3- !!!!!!!ไอเพื่อนทรยศ!!!!!!!!!! คือมันได้คะแนนมากกว่าคนเยอรมันด้วยกันเองอีก!!!
อังกฤษ : ได้ 3+
เลข : ได้เกรด 6........สงสารอันนามากๆ คือแถบอเมริกาเรียนเลขกันง่ายไง เกิดมาเค้ายังไม่เคยเรียน
         พาราโบลาเลย เพราะงั้นเค้าเลยไม่เข้าใจเวลาครูสอน (แต่เห็นเด็กไทยบางคนมาที่นี่ก็เรียนเลข        
         ไม่เข้าใจนะ คงเพราะอยู่สายศิลป์ด้วยแหละ)
สเปน : คงไม่ต้องบอกแหละเนอะ แมกซิโกใช้ภาษาทางการเป็นภาษาสเปน ดังนั้น........เกรด 1+ ลอยมา
           ตั้งแต่ลงเรียนแล้ว5555 มันคงเก่งกว่าครูที่สอนด้วยซ้ำเพราะครูเป็นคนเยอรมัน555 คงต้องสลับ
           คนสอนแล้วมั้ง


อันนี้ข้อสอบเลขที่บ่นไป ในรูปเป็นของเพื่อนเพราะลืมถ่ายของตัวเองไว้ ไอตรงข้อ 5 อ่ะ ตัวแปร f(x)
เราดันไปเขียนตัวแปร y นั่นแหละ โดนหักคะแนนเกือบทุกข้อ


อีกอันที่โมโหมากๆ(ไม่มีรูป) คือกราฟพาราโบลา เราเขียนกราฟแบบไทย มีหัวลูกศร
ตรงแกน x แกน y กับตรงพาราโบลาที่มันเป็นปลายกราฟ 2 เส้น แค่นั้นแหละ หัก 3 คะแนน
จาก 5 คะแนน !!!!! คือถ้าครูไม่หักพวกนี้นี่เราได้เกรด 3 แล้วอ่ะ เซ็งมากๆๆๆๆ












Comments