วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ณ โรงเรียนเยอรมัน (อาทิตย์แรก)

     Hallo! ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนในเยอรมัน ตอนที่เราเขียนบทความนี้เนี่ย เป็นช่วงวันอาทิตย์หลังจากสัปดาห์แรกที่โรงเรียน อารมณ์ช่วงนี้คือไม่อยากไปโรงเรียนมาก บอกเลยว่าเรียนไม่รู้เรื่อง เพื่อนก็ไม่ค่อยมี การบ้านก็ทำไม่ได้😫 คือเซ็งสุดๆ
      สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโรงเรียน :
     -ที่นี่เค้าไม่ได้เรียกทุกคนว่าเพื่อนนะ จะเรียกเฉพาะคนที่ค่อนข้างสนิท เพื่อนร่วมห้องจะเป็นอีกคำเลย
      คือ Mitschüler เค้าค่อนข้างซีเรียสเรื่องเพื่อน เพื่อนสนิทก็เห็นมีแค่คนเดียวหรือ2คน และเพื่อนสนิท
      คือสนิทจริงๆ แบบ ไปเที่ยวเมืองอื่นด้วยกัน ไปนอนค้างที่บ้านเพื่อน
     -ตรงทางเข้าโรงเรียนจะมีกระดาษแปะไว้ มันคือกระดาษที่เอาไว้บอกว่าวันนี้ครูคนไหนไม่สอนบ้าง
     -คนส่วนใหญ่พูดอังกฤษได้แต่ไม่คล่อง แม้แต่ครูเองก็ด้วย
   
     วันแรก : ตื่นเต้นมากกกกกกกกก กลัวไม่มีเพื่อนสุดๆ น้ำตาจะไหล เราเดินออกจากบ้านมากับโฮสพี่สาวที่เรียนม6 รรนี้ เดิน10นาทีถึงรร โฮสพี่สาวเราก็ไปติดต่ออารมณ์แบบห้องพักครูแล้วก็ถามว่าครูที่ทำเรื่องให้เราย้ายเข้าอยู่ไหน ต้องไปคุยเรื่องวิชาที่เราจะเรียน ครูคนอื่นก็บอกว่าต้องไปถามอีกห้องก็เดินไป.... ไปถึง ถามแบบเดิม ได้คำตอบแบบเดิมก็เดินไปอีก.....สรุปทำแบบนี้อยู่ประมาณ3รอบ พี่สาวเราก็บ่นว่าอะไรวะเนี่ย ทำไมโบ้ยไปนู่นไปนี่ตลอด และสุดท้ายก็ได้คำตอบจากครูที่สนิทกับครูคนนี้ว่า....คาบแรกครูเค้าไม่มีสอนเลยมาช้า เรานี่แบบ อ่าวเฮ้ย! ครูไม่คิดจะบอกครูคนอื่น แถมไม่สนใจนักเรียนแลกเปลี่ยนหน่อยหรอห้ะ งั้นจะตื่นเช้ามาทำไมเนี่ย! สรุปก็นั่งรอไปถึงคาบ2(พี่สาวเราคาบแรกไม่มีเรียน เป็นคาบว่าง) นั่งรอจนหายตื่นเต้นเลย555 พอครูมาปั้บ เค้าก็จัดการอธิบายว่าเวลาเรียนกี่โมง พักกี่โมง แล้วก็บอกว่า2วันแรกเราจะมีตารางเรียนเดียวกันกับเด็กที่เคยมาอยู่ไทยก่อน!!! พอวันพุธค่อยเลือกวิชาเอง ตอนครูบอกเด็กที่เคยมาเรียนที่ไทย เรานี่แบบ ตู้หูวววววววว โชคดีสุดๆ และมันยังไม่หมด! ครูบอกมีเด็กแลกเปลี่ยนอีกคนมาจากแมกซิโกด้วย! เรานี่ยิ้มเลย มีเพื่อนเป็นเด็กแลกเปลี่ยนแน่ๆ555 จากนั้นก็ปริ้นตารางเรียนแล้วพี่สาวก็เดินไปส่งที่ห้องเพื่อเรียนเลข ระหว่างเดินนี่ตื่นเต้นมากๆๆๆ และแล้ววววววววว เราก็มาถึงหน้าห้อง!!!!! บิดลูกบิดประตูห้องจะเข้าไปเรียนปั้บ! ถั่มถ่าดาาาาาา ห้องล็อกค่ะ.....คาบแรกครูป่วย ครูไม่มาสอน เรานี่คิดในหัวว่าทำไมครูชอบหยุดกันจังวะ จังหวะนั้นคือหายตื่นเต้นแล้ว แถมเบื่อด้วย จากนั้น โฮสพี่เราก็เลยพาไปเรียนที่ห้องเดียวกับเค้า เราก็ไปนั่งเฉยๆ ไม่ได้ทำไร พอหมดคาบปุ้บ! ลองใหม่อีกรอบ555 โฮสพี่เราพาเดินไปห้องที่เราจะเรียนคาบต่อไป แล้วเราก็เจอกับลูกครึ่งไทยซะที  เค้ารออยู่หน้าห้องเรียน แล้วครูที่ดูแลเรื่องเด็กแลกเปลี่ยนก็มาคุยกับลูกครึ่งว่าเดี๋ยวเราจะเรียนเหมือนเค้าใน2วันนี้นะ คุยเสร็จเราก็เข้าไปเรียนเลย และเราค้นพบว่า....คาบนี้เราเรียนสเปน...WTF....คือเยอรมันยังไม่รู้เรื่องเลย นี่แอดวานซ์ถึงขั้นมาเรียนสเปนเลยหรอวะ5555 คาบนี้เราก็นั่งโง่ๆข้างๆเด็กไทย ไม่ได้ทำบ้าอะไรเลย ฟังสเปนไม่รู้เรื่อง แต่นั่งๆไปเท่านั้นแหละ..."คุณพูดเยอรมันได้มั้ย?"  เฮ้ย! หัวใจจะวาย รู้ว่ามาเรียนที่ไทยแต่ไม่รู้ว่าพูดไทยได้  เราก็ตอบไปว่าได้นิดหน่อย(ตอบเป็นภาษาไทย) แล้วก็คุยๆกันอีก(เป็นภาษาไทย) สรุปว่าเค้าชื่อเซรีน่า เค้าเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน  เคยเรียนโรงเรียนเยอรมันในไทย   ระหว่างที่คุยๆอยู่นี่ที่ฮามากๆคือไอเพื่อนแถวนั้นมันหันมามองแบบตกใจมากแล้วถามเซรีน่าว่าพูดภาษาไทยได้หรอ คือเพื่อนมันรู้แค่เป็นลูกครึ่งแต่ไม่รู้ว่าพูดไทยได้(นี่เพื่อนสนิทเซรีน่านะเออ) แถมหน้าเพื่อนมันดูอเมซิ่งมากๆ555 เซรีน่าก็ตอบไปว่าได้นิดหน่อย แล้วเพื่อนก็ขอให้เขียนชื่อเพื่อนเป็นภาษาไทยให้หน่อย แต่เซรีน่าเขียนไม่เป็น! เขียนเป็นแต่ชื่อตัวเอง... เราเลยเขียนให้แทน เขียนให้เสร็จปั้บ! เพื่อนบอกว่าภาษาไทยตัวอักษรมันเท่มากเลย แล้วก็ภูมิใจกับชื่อตัวเองในภาษาไทยมาก555 มีเพื่อนอีกคนเห็นก็เลยขอให้เราเขียนให้บ้าง จังหวะนั้นคือรู้สึกว่าตัวเองเป็นเซเลปสุดๆ มีแต่คนยื่นกระดาษมาให้เขียนชื่อ555(ถึงจะไม่ได้เขียนชื่อตัวเองก็เหอะ) หมดคาบปุ้บ เซรีน่าก็พาเราออกไปเดินด้านนอกเพราะเป็นช่วงเวลาพัก เราก็ถามๆว่ารู้จักเด็กแลกเปลี่ยนอีกคนมั้ย? เซรีน่าตอบว่า...มีเด็กแลกเปลี่ยนอีกคนด้วยหรอ? คือเรานี่งงเลย อยู่ม.เดียวกันแต่ไม่รู้เนี่ยนะ เรานึกว่าครูจำผิด สรุปแล้ววันแรกก็ไม่มีอะไร เดินตามเซรีน่าทั้งวัน เข้าไปนั่งโชว์ตัวว่าเป็นเด็กแลกเปลี่ยนแล้วก็กลับบ้าน เรียนอะไรยังไม่รู้เลย555
   
         วันที่สอง: เจอเด็กแมกซิโกในคาบเยอรมัน นางชื่อแอนนาแต่นางมากับโครงการอื่นที่ไม่ใช่ YFU นะ และประเด็นก็คือ นางพูดเยอรมันปร๋อมาก... คือแอนนาเรียนในโรงเรียนเยอรมันในแมกซิโกก็เลยพูดคล่องสุดๆ เพื่อนคนเยอรมันนางก็มีเยอะมากด้วย บางคนก็อยากเป็นเพื่อนกับเด็กแลกเปลี่ยน แต่เค้าพูดอังกฤษไม่ค่อยได้และอายเวลาคุยอังกฤษ พอเด็กแม็กซิโกนี่มาถึงแล้วพูดเยอรมันได้ก็เลยมีแต่คนชอบ (กลับมามองตัวเองแล้วน้ำตาไหล) เวลาเราคุยกับแอนนาจะคุยเป็นอังกฤษเพราะเค้ารู้ว่าเราพูดไม่ค่อยได้ ก็ถามๆแอนนาว่าแอนนาเรียนอะไรบ้าง ไม่มีอะไรมาก

      วันที่สาม: วันนี้เราต้องลุยคนเดียวแล้ว!!! เราเลือกวิชาเรียนไป11วิชา (ปกติเค้าจะเลือกกัน12วิชา) 1วิชาจะมี2คาบต่ออาทิตย์ คาบละ60นาทีไม่ก็75นาที บางวันครูไม่ว่างก็ไม่มาสอน แต่จะมีป้ายประกาศบอกล่วงหน้า1วันตรงทางเข้ารร วิชาที่เราเลือกมี Deutsch , DVT(เป็นภาษาเยอรมันสำหรับคนที่ไม่ค่อยเก่ง) , English , Art , Math , Physics , Chemie , Philosophy , Geography , Sozial Wissenschaft (คิดยังไงลงวิชานี้วะเนี่ยTT) แล้วก็ sport    คาบแรกมาถึง!!!!!  Sozial Wissenschaftค่ะ อืมมมมมมมม ร้องไห้แปบ มันคือวิชาว่าด้วยสังคมศาสตร์ทั้งหลายแหล่ ตั้งแต่การปฏิบัติของคนต่อเพศที่แตกต่างกันยัน
กฎหมาย คือที่ลงวิชานี้ไม่ใช่เพราะอะไรนะ แต่ไม่ไหวกับประวิติศาสตร์จริงๆ (มันบังคับให้ลงสังคม 3 วิชา เราลงปรัชญากับภูมิศาสตร์ไปแล้ว เหลือให้เลือกคือประวัติศาสตร์หรือสังคมศาสตร์)เราก็เดินไปหน้าห้อง และปรากฎว่า เซรีน่าเรียนด้วย! เราก็เลยเดินเข้าห้องไปกับเซรีน่า ตอนแรกกะจะนั่งข้างๆเซรีน่าแล้วนะ แต่ที่มันเต็ม เราเลยไปนั่งคนเดียวแทน😢 (ที่นี่นั่งคนเดียวเป็นเรื่องปกตินะ) และแล้ว 60นาทีก็เสียไปโดยเปล่าประโยชน์555 ไม่รู้เรื่องเลย เรียนเสร็จก็ดูตาราง และแล้ววววววววว คาบต่อไปคืออออ เลขค่ะ เฮฮฮฮฮฮฮ! รอเวลานี้มานานมากเพราะเรามั่นใจว่าเลขเด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก(ยกเว้นเด็กเอเชีย) เราเดินไปที่ห้องเลขด้วยความมั่นใจว่าจะกลายเป็นเทพแน่นอน จับลูกบิดเตรียมตัวเปิดประตูมาทักทายครู พอบิดประตูเท่านั้นแหละ...... ห้องล็อก... ครูไม่สบาย เดจาวูอย่างโหดร้าย เออให้ตายเหอะว่ะ โง่เองที่ไม่ได้ดูตารางว่าครูคนไหนไม่สอน เราก็เลยออกไปเดินเล่นนอกรร. แล้วก็กลับมาอีกรอบมาเรียนเคมี เดินมาหน้าห้องแล้วตกใจมาก ไม่เจอใครหน้าคุ้นเลย...ทำไงดีเนี่ย พอเข้าห้องไปไม่รู้จะนั่งไหนดีเพราะมันเป็นโต๊ะทำการทดลองอ่ะ แบบที่อยู่กันโต๊ะละ3คน4คน พวกที่สนิทกันก็นั่งโต๊ะเดียวกัน เรานี่ไม่รู้จักใครเลย รู้สึกเหมือนโดนปล่อยเกาะ แต่สุดท้ายเราก็เห็นผู้หญิงคนนึงกวักมือเรียกเราให้ไปนั่งด้วย เราแทบจะเข้าไปกราบเลย นางชื่อซาร่า เพื่อนในกลุ่มนางมีผชคนนึง ผญอีกคน ผชชื่อเลียม ผญชื่อเซรีน่า(อีกแล้ว) วิชานี้คือเคมี แต่มันไม่เหมือนไทยนะเออ  ตอนแรกนึกว่าจะน่าเบื่อ ตอนเลือกนี่เตรียมใจมาเขียนสูตรท่องตารางธาตุ ที่ไหนได้ เค้าทดลองกัน! การทดลองวันนี้คือทดลองหาวิธีสกัดน้ำหอมกลิ่นส้ม เหมือนเค้าจะให้ทดลองทั้งวิธีที่ถูกและวิธีที่ผิดนะ วันนี้ทดลองแบบผิดๆไปก่อนคือเอาเปลือกส้มไปใส่น้ำแล้วต้ม (จุดไฟด้วยท่อส่งแก๊ส! ไม่ใช้ตะเกียงแอลกอฮอล์ แต่ละโต๊ะมีท่อแก๊สของตัวเองเลย)แล้วดูว่าจะได้น้ำหอมมั้ย ระหว่างทำก็ถามพวกซาร่าว่าเคมีเรียนอะไรกัน ลงวิชาอะไรไปบ้าง ทั้ง3คนนี้พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ก็เลยสื่อสารกันค่อนข้างงง แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่พูดอธิบายเพิ่มนิดหน่อย+ภาษามือก็รู้เรื่อง สรุปแล้ววิชานี้แนะนำสุดๆ ต่างจากไทยลิบลับ ที่เราฮามากๆในคาบนี้คือไม่มีใครเคยเห็นเราไงและก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน รู้แค่เป้นเด้กแลกเปลี่ยน เค้าเห็นเราเป็นคนเอเชียผมดำตาดำ ระหว่างนั่งๆดูคนอื่นเค้าทดลองกันมันก็มีเพื่อนผู้ชายคนนึงเอากระดาษโฆษณาซักอย่างมาให้อ่าน เปิดดูปั๊บ!... มันเป็นภาษาจีน....ไม่คิดจะถามหน่อยหรอว่าเรามาจากประเทศอะไร555

วันที่สี่กับห้า :ที่เด็ดสุดคือพละเลย เรียนวิ่งกระโดดข้ามรั้ว อื้มหืม ช่วยดูส่วนสูงเราหน่อยได้มั้ย คือส่วนสูงผู้หญิงไทยกับที่นี่มันต่างกันไง ที่ไทยเราถือว่าปกติ ที่นี่คือเตี้ยTT ขาเรายังสูงไม่ถึงรั้วเลยมั้ง555 ตอนแรกเค้าจะให้วิ่งปกติก่อน แล้วก็ให้วิ่งยกขาสูงกับวิ่งแบบเหยียดขาไม่ใช้เข่าวิ่ง สุดท้ายคือกระโดดข้ามรั้ว! งานงอกอันสุดท้ายเนี่ยแหละ มีรั้ว5อัน คนอื่นเค้ากระโดดข้ามหมดไม่ก็ล้มอันเดียว พอตาเรานี่...ข้ามอยู่2อัน อันอื่นล้มหมด555 วินาทีนั้นนี่อยากไปกระโดดตึกชั้น2ให้ขาหักจะได้ไม่ต้องเรียน แบบ ฟัคยูวววววว อ้ากกกกก อายโว้ยยยยยยยยย บอกตรงๆว่าไม่อยากมาโรงเรียนเพราะวิชานี้เลย555 วิชาต่อมาาาาา ภาษาเยอรมัน นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ไม่อยากมาโรงเรียน55 (เหตุผลเริ่มเยอะ) เรียนไม่รู้เรื่องเลย ครูมีงานให้ทำก็ทำไม่ได้ รู้สึกผิดต่อเพื่อนที่นั่งข้างๆมากที่ต้องมานั่งแปลให้เรา ไอเพื่อนก็ดูจะรำคาญๆเวลาแปลเพราะเค้าก็ต้องทำงานของตัวเอง น้ำตาจะไหล ลายมือครูนี่ดีพอๆกับหมอเขียนใบสั่งยา แถมมีการบ้านด้วย เลยต้องให้โฮสช่วย

ข้อแนะนำ
1. ก่อนมานี่ก็ฝึกภาษาเยอรมันให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ คนที่นี่ไม่ได้เย็นชาทุกคนแบบที่เคยได้ยินมา
    หรอก บางคนก็เฟรนลี่ดี เค้าแค่ไม่กล้าคุยกับเราเพราะเราพูดเยอรมันไม่เก่ง
3. บางทีจะไม่มีเพื่อนคนไหนกล้าคุยกับเราเลยนะ เราเลยต้องไปชวนคุยก่อน คุยๆไปเค้าก็เฟรนลี่นะ แค่
    ไม่อยากเข้าหาเราก่อนเท่านั้นเอง
4. ทำการบ้านไม่ได้! ไปขอให้โฮสช่วยซะ ตอนแรกเราจะแปลเอง สรุปหมดไปครึ่งวันแบบไม่ได้อะไรเลย
5. เรียนไม่รู้เรื่อง! ช่างมันเหอะ กลับบ้านไปให้โฮสช่วยแปลที่เรียนวันนี้ไป
6. ถ้าไม่สนิทก็อย่าเพิ่งไปขอ ig หรือ snap หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันมีความเป็นส่วนตัว คนที่นี่เค้าถือ
7. เอาดิค ไทย-เยอรมันมาด้วย เค้าไม่ให้ใช้มือถือ (เราไม่ได้เอามาชีวิตเหมือนคนพิการ)
 


2 ภาพนี้คือโรงเรียนเราเอง

นี่คือการบ้านเยอรมันที่ไปขอให้โฮสช่วย

อันนี้คือตารางที่บอกว่าครูคนไหนไม่สอนบ้าง (รีบถ่ายมากกลัวโดนยึดมือถือ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Comments