วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ก่อนจะมาแลกเปลี่ยน

เกริ่นนำซักหน่อย
         
          สวัสดีค่ะ เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศเยอรมันของ yfu รุ่น 19 นะ (2016-2017) เราขอไม่บอกชื่อละกันเพื่อความเป็นส่วนตัว5555 เราเขียนบล้อกเพราะอยู่ที่นี่เราค่อนข้างมีเวลาว่างเยอะอยู่ ก็เลยอยากจะแบ่งปันประสบการณ์(ถึงจะเคยมีหลายคนมาแบ่งปันบ้างแล้ว) ซึ่งเราว่าการใช้ชีวิตที่นี่แตกต่างจากไทยมากกกกกกก

          โอเค สาเหตุที่เราเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน yfu นี่ จริงๆแล้วเพราะมีพี่ไปแลกเปลี่ยนที่ฮ่องกงมา แล้วพอพี่กลับมาเนี่ย พี่บอกว่าชีวิตแลกเปลี่ยนเป็นอะไรที่ดีมากกกกกก แบบ เป็นปีที่ดีที่สุดในชีวิต ส่วนเรานี่อยู่ไทยเบื่อๆ แต่ละวันผ่านไปแบบไร้คุณค่า พอพี่กลับมาแล้วพูดแบบนั้น เราเลยจะไปสอบแลกเปลี่ยนบ้าง แต่พอเราจะสมัครสอบ afs ตามพี่ ปรากฏว่าอายุไม่ถึง! ก็เลยมาสอบ yfu แทน ส่วนสาเหตุที่มาเยอรมันนี่ พูดตรงๆเลยนะ สาเหตุหลักเพราะมันมีโควต้าเยอะ 555(ไม่น่าพูด) นั่นแหละ พอส่งใบสมัคร สอบข้อเขียน สอบทำงานกลุ่ม สอบสัมภาษณ์ เสร็จปั๊บ! ก็ถึงเวลารอ อยากบอกว่าตอนรอนี่ตื่นเต้นมากๆๆ คือตื่นเต้นอยู่นานสุดๆ แล้วพอประกาศผลนี่ แม่เป็นคนมาบอกว่าติดตัวจริงเยอรมันนะ ก็ดีใจกันไป จากนั้นเราก็จะมีไปฟังประชุมอะไรซักอย่างของคนที่ติดตัวจริงไม่ก็ตัวสำรอง แล้วก็ไปเรียนภาษาที่เกอเธ่(ควรเรียนก่อนไปนะ ไม่ก็เล่นduolingoก็ยังดี อย่าไปตายเอาดาบหน้า) แล้วก็มีค่ายที่ทาง yfu จะจัดทั้งหมด 2 ครั้ง ในค่ายนี่จะได้เจอเพื่อนใหม่เยอะมากกกกกกก ได้เพื่อนใหม่ที่จะไปประเทศเดียวกันก็มี ประเทศอื่นก็มี แถมทั้ง 2 ค่ายก็สนุกมาก ตอนกลางคืนเล่นไพ่กันมันส์มาก อย่าลืมเอาไพ่ไปเด็ดขาด555(ตอนค่าย 1 เพื่อนเราไม่มีใครเอาไพ่มาเลย เสียดายสุดๆ) ส่วนพวกของใช้นี่ไปซื้อใกล้ๆวันไป

        สิ่งที่ต้องทำก่อนไปนะ
1 เรียนภาษา อันนี้สำคัญมากเพราะบางคนจะพูดอังกฤษไม่ค่อยได้
2 ทำอาหาร หัดทำเมนูที่เครื่องปรุงหาในต่างประเทศได้ โฮสบางคนจะขอให้เราทำอาหารไทยให้กิน
3 เขียนเมลล์หาโฮส อันนี้ก็สำคัญนะ เพราะเราว่าถ้าได้คุยกันก่อนไปถึงจะได้สนิทกันมากขึ้น แต่ถ้าใครได้โฮสช้าก็  ช่วยไม่ได้นะเออ(ของเรานี่ได้5คนสุดท้าย คิดซะว่าได้โฮสดีดีกว่าได้โฮสเร็ว)
4 ซื้อมาม่ากับเครื่องปรุง อันนี้รู้กันอยู่แล้ว ที่จริงที่นี่ก็หาได้แหละ มันมีขายแต่แพง อ๋อ เอาพวกผงโลโบ้มาด้วยจะได้ใช้ทำอาหารให้โฮสกิน (โลโบ้แกงเขียวหวานเผ็ดมากแต่ก็อร่อยมากด้วย)
5 เสื้อผ้า ไม่ต้องเอาไปเยอะมาก ไปซื้อที่นู่นเอา
6 ของฝาก ผญที่นี่ชอบใส่ไอกางเกงเดินชายหาดที่ผ้ามันบางๆอ่ะ ที่มันพองๆหน่อย เอาพวกลายช้างไม่ก็อะไรก็ได้ที่ลายเยอะๆ555 ไม่ก็ซื้อถุงย่ามลายไทยๆก็ได้ ผชนี่เราเอากางเกงมวยมา แต่เห็นพี่ที่ค่ายบอกให้เอาเสื้อกล้ามคาราบาวไม่ก็รองเท้าช้างดาวอ่ะ

สำหรับคนที่กังวลเรื่องไปแลกเปลี่ยน/ไม่แน่ใจว่าไปดีมั้ย
        สิ่งที่เราอยากบอกก็คือ
• 1ปีที่เสียไป เราจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆกลับมา และเราคิดว่า ประสบการณ์ที่ได้มันมี ค่ามากกว่าจำนวนหนังสือที่เราจะอ่านได้ถ้าไม่ได้ไปแลกเปลี่ยน
• ถ้าใครกังวลจริงๆว่ากลับมาแล้วจะเรียนไม่ทัน เรามั่นใจว่าเราก็ต้องพยายามจริงๆ แบกเอาหนังสือเรียนจากไทยไปอ่านที่นู่นก็ได้ เพราะเราก็ทำเหมือนกัน
• ไม่งั้นก็ซ้ำชั้นเอา 
• ถ้ามาแลกเปลี่ยนแล้ว(ส่วนมาก)จะได้ภาษาใหม่ๆกลับไป บางทีอาจได้ภาษาที่ในไทยมีคนพูดได้ไม่ถึงร้อยคนก็ได้!!(มั้ง)
• มาแลกเปลี่ยนมันเหมือนมาเปิดโลกกว้าง ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ มันเหมือนอยู่กันคนละโลกเลย
• ถ้าสอบติดแล้วกำลังลังเลว่าไปดีมั้ย จำไว้ว่ามีคนอีกเยอะแยะที่อยากจะไปบ้าง มีโอกาสแล้วก็ลุยเลย!
• ถ้ากลัวก็อย่าไป เสียดายที่


สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าเยอรมันอายุ 16 กินเบียร์ได้ ต่ำกว่านั้นก็กินเบียร์แบบไม่มีแอลกอฮอล์ 17 ขับรถได้แต่ต้องมีคนอายุ 18 นั่งไปด้วย และถ้าโหลดอะไรก็ตามที่ผิดลิขสิทธิ์ ตำรวจมีสิทธิ์ตามมาเจอถึงบ้านได้เลย เพราะงั้นก่อนไปจะโหลดอะไรก็รีบโหลด  แต่ถ้าดูเฉยๆ ไม่ได้โหลด........อันนี้ไม่มีใครรู้ 555

จบการเกริ่นนำ!!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Comments