วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เรียนภาษา 3 อาทิตย์


         เรียนภาษา  3 อาทิตย์เนี่ย ทาง YFU เป็นคนจัดให้ โดยตอนไปเข้าค่าย YFU จะมีข้อสอบเยอรมันมาให้ทำ แล้วเค้าก็จะดูคะแนน แล้วเอาเด็กที่ระดับใกล้ๆกันมาเรียนที่เดียวกัน เด็กกลุ่มอื่นก็อยู่คนละเมืองเลย  ในช่วง 3 อาทิตย์เนี่ยไม่ได้ไปเจอคนจากกกลุ่มอื่นเลยนะ แล้วรู้สึกว่าที่เรียนภาษาจะเอาแค่เด็กจากประเทศเดียวกันมาเรียนด้วยกัน ยกเว้นอเมริกาใต้กับยุโรปที่จะเรียนรวม เพราะงั้นเราจะไม่รู้จักเด็กแลกเปลี่ยนจากประเทศอื่นเลย

            ช่วงเรียนภาษานี่เรียกได้ว่าเป็นนาทีทองสำหรับคนที่ภาษายังไม่ค่อยดีแบบเราเลยแหละ  ช่วงนี้เราก็จะได้โฮสที่จะมาดูแลเราใน3อาทิตย์แรก เราว่าเค้าจะปฏิบัติกับเราอารมณ์เหมือนเราเป็นแขกมากกว่า เค้าก็จะคอยสอนนู่นนี่เกี่ยวกับเยอรมัน แบบ คำง่ายๆ อาหารการกิน เรื่องโรงเรียน โฮสเราจะมีโฮสแม่ โฮสพ่อ พี่ชาย แล้วก็พี่สาว ส่วนใหญ่เราจะอยู่กับโฮสแม่นะ โฮสแม่นี่เค้าพูดอังกฤษพอได้แต่ไม่คล่องเท่าไหร่ อารมณ์เหมือนเรียนมานานจนลืมหมดแล้วอ่ะ เวลาเราคุยนี่ช่วงแรกๆจะคุยอังกฤษนานๆทีจะพูดเยอรมัน แต่หลังๆตั้งแต่วันที่ 3หรือ4เนี่ยแหละ เราจะพูดเยอรมันเป็นประโยคง่ายๆ พูดไม่ได้ก็รูปประโยคเป็นอังกฤษ แต่พวกคำจะใช้เยอรมันเอา แต่ละวันส่วนมากเราจะคุยเรื่องอาหารเที่ยงที่ YFU จัดให้ ซึ่งปกติเนี่ยรสชาติมันดีกว่าอาหารโรงเรียนแค่นิดเดียว (เคยมีรอบนึงกินเนื้อสีแดงๆ นุ่มๆ ตอนแรกก็นึกว่าเค้าปรุงแบบ medium แต่ปรากฎว่า!!! ไปดูตรงรูปสุดท้ายนะจ๊ะ) คุยเรื่องเรียนว่าเรียนอะไร อันนี้ก่อนกลับบ้านเราเปิดดูว่าจดอะไรบ้างเพราะรู้ว่าโฮสต้องถามแน่ๆ ที่เมืองไทยเป็นยังไง โฮสของเราแทบจะไม่รู้เรื่องประเทศไทยเลย! ย้ำว่าแทบจะไม่รู้เลย คือที่เค้ารู้เกี่ยวกับไทยนะ อยู่ในเอเชีย สึนามิที่ภูเก็ต แล้วก็ทักษิณ เค้าเคยมาอวดเราด้วยว่าเคยกินอาหารไทย พอเราขอดูรูปนะ......เค้าเอารูปเกี๊ยวซ่ามาให้เราดู 555 
           
            โอเคเข้าเรื่อง วันธรรมดาเราก็จะไปเรียนภาษากับเพื่อน YFU คนไทย (ตอนแรกเรานึกว่าเรียนกับเพื่อนต่างชาติด้วย) ตอนเรียนก็เรียนเรื่องแกรมม่าบ้าง ท่องศัพท์บ้าง บางทีก็ฝึกเขียน แล้วเค้าจะถามว่าอยากเรียนเรื่องอะไร เค้าก็จะสอนอันที่เราอยากรู้นั่นแหละ ภาษานี่จะเรียนกับครูเยอรมัน คือช่วงนี้เราพัฒนาภาษาได้เยอะจริงๆ ฟังรู้เรื่องกว่าตอนมาเยอะมากกกกกกกๆๆๆ แต่พูดนี่ไม่ค่อยได้เท่าไหร่(ได้เท่านี้ก็บุญแล้วววววว😅)ยิ่งเราฝึกพูดเท่าไหร่จะยิ่งพูดคล่องขึ้นเท่านั้น แล้วก็จะมีเรียนกับครูคนไทยด้วย! ที่ครูไทยสอนส่วนใหญ่ก็คือชีวิตในเยอรมัน การปรับตัวกับโฮส เทศกาลที่ควรรู้ เรื่องพื้นฐานต่างๆ บลาๆๆ  บางทีก็มีออกไปทำกิจกรรมด้านนอก ตอนเย็นนี่บางครั้งเพื่อนจะชวนไปเดินเล่นในเมืองเพราะช่วงที่เราไปถึงจะเป็นช่วงเซลกระหน่ำพอดีเพราะมันเป็นช่วงเปลี่ยนฤดู ถ้าจะไปก็ต้องบอกโฮสก่อน นัดกันให้ดีว่าจะกลับก่อนกี่โมง ที่นี่เค้าซีเรียสเรื่องเวลามากนะ เวลาจะเดินทางนี่ใช้แอพนี้เลย DB navigator บอกได้หมดตั้งแต่เวลารถบัสมา ชานชาลารถไฟ รถไฟมาเลทยังบอกได้เลย (สำหรับคนที่มีปัญหาว่าโหลดแล้วใช้ไม่ได้แบบเรา ลองดูปีที่เราเลือกนะ ต้องเปลี่ยนปีเป็น ค.ศ. ไม่ใช่ พ.ศ. ไม่งั้นมันจะขึ้นว่าวัน เวลา ไม่มีอยู่ในระบบ วิธีเปลี่ยนก็ไปดูในเน็ตเอาละกัน) เสาร์อาทิตย์ปกติเราจะอยู่บ้านนะ แต่โฮสพี่ชายกับพี่สาวนี่ยุ่งมากกกกกกก ออกไปด้านนอกตลอด โฮสพี่ชายชอบออกไปหาเพื่อน ไปนัดปิ้งบาร์บีคิวกัน ไปว่ายน้ำ นู่นนี่นั่น แถมช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเรา เด็กแลกเปลี่ยนที่เคยอยู่บ้านนี้ปีที่แล้วจะมาเรียนต่อมหาลัยที่นี่ แล้วพอดี้พอดีว่าเค้าเป็นแฟนกับโฮสพี่ชายเรา!!(ตกใจอ่ะดิ) โฮสพี่ชายก็เลยขับรถไปส่งที่นู่นที่นี่ พาไปเที่ยวบ้างอะไรบ้าง ไม่ได้อยู่บ้านเลย ส่วนพี่สาวนี่ทำงานเพื่อสังคม เช่นไปเล่นกับเด็ก ไปประชุมเกี่ยวกับโบสถ์  ส่วนเราก็นั่งคุยเล่นกับโฮสแม่โฮสพ่อไป บางครั้งโฮสก็พาไปเที่ยวด้านนอก ของเรานี่เคยจะไป köln รอบนึง แต่ปรากฏว่าพยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก! โฮสก็เลยบอกไม่ไปแล้วกัน (แต่ในความเป็นจริงที่เคิล์นแดดออกเปรี้ยงปร้างTT) อาทิตย์ถัดมาโฮสก็เลยพาไปเที่ยวทะเลสาบ ก็ไปล่องเรือแล้วโฮสก็ว่ายน้ำนิดหน่อย ตอนเย็นก็มีปิ้งบาร์บีคิวข้างๆทะเลสาบนั่นแหละ เป็นอะไรที่เกิดมาไม่เคยคิดว่าจะได้ทำเลย55  ช่วงนี้นี่ชีวิตดี๊ดีมีความสุขมากกกกกกกกกก นอนไม่ค่อยดึก ตื่นก็สาย การบ้านก็น้อย โรงเรียนก็ไม่ต้องไป อยู่กับเพื่อนคนไทยกับครูไทยอีก บอกเลยสวรรค์! ตอนวันสุดท้ายของช่วงเรียนภาษานี่ร้องไห้ด้วย คือคิดถึงครูไทยมากๆ ครูเค้าชอบพาไปเที่ยวบ่อยๆ แถมกังวลกับเรื่องโรงเรียนบ้างเรื่องโฮสใหม่บ้าง แต่นั่นแหละ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา สรุปแล้ว กลุ่มเรียนภาษาก็ต้องแยกย้ายกันไป(แถมแต่ละคนนี่อยู่กันไกลเวอร์) ชีวิตช่วงนี้สนุกมากก็จริง แต่อย่าได้หวังว่าชีวิตจะดีแบบนี้ไปตลอดการมาแลกเปลี่ยนนาจา พอหลังจากเรียนภาษา3อาทิตย์เสร็จปั้บบบบบบบบบบบบบ!!!!! (ซาวด์มา..............!!!!!!!!!!)

              นี่แหละชีวิตเด็กแลกเปลี่ยนของจริง!!!!!วู้ฮู้้้้้้้้

ข้อแนะนำเล็กน้อย : 
เรื่องการฟัง!!! อันนี้บอกเลย (ตรงนี้สำคัญมาก!!!!) เวลาเรามาใหม่ๆเนี่ย ส่วนใหญ่ที่ฟังรู้เรื่องก็เพราะจับคำศัพท์ที่ได้ยินเป็นคำๆ !!!!!เพราะงั้น!!!!! ใครที่จะมาแลกเปลี่ยนก็ท่องศัพท์ไว้ซะ แกรมม่านี่ช่างมันก่อน เอาให้ฟังรู้เรื่องพอเพราะเดี๋ยวมานี่เวลาเค้าคุยกันแกรมม่งแกรมม่าอะไรเราลืมหมดแน่นอน เค้ารัวกันเร็วอย่างกับ eminem แร้พ555 (อันนี้ก็เวอร์ไป) อันที่จริงก็เรียนแกรมม่ามาด้วยแหละ เพราะถึงรู้ศัพท์เยอะแต่เรียงประโยคไม่ถูกเค้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

อันนี้คือโบสถ์ที่เราเรียนภาษา เราเรียนในห้องข้างๆโบสถ์ 
 อันนี้คือแม่น้ำไรน์ที่โคโลน ถ่ายตอนไปเลี้ยงส่งกลุ่มเรียนภาษา 
นี่คือข้าวเที่ยงงงงงงงง รสชาติคละๆกันไป อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง


ข้าวเที่ยงที่เขียนบอกไปด้านบนว่านุ่มๆแดงๆ จะเห็นว่ากินไปแล้วครึ่งนึง พอพลิกด้านเนื้อปุ้บ

เอ้าซูมมมมมมมม!! มันคือลิ้นวัวนี่เองงงงงงง!!!!!!! ฟัคคคคคคค!!! แทบอ้วกที่กินไป

คือตอนแรกไม่รู้ไงว่าคือเนื้ออะไร ตอนแรกก็สงสัยเลยถามครูไทย ครูบอก เฮ้ย! มันแดงๆนิ่มๆเพราะปรุงไม่สุกไง พวกเราเป็นเด็กดีก็เชื่อครูไง ก็กินๆไป แล้วอยู่ๆคนแก่ในร้านก็ถามพวกเราว่า รู้ป่าวววววว อันนี้เนื้อไร มันคือลิ้นวัวไงยูววววว ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อ แต่ครูไทยก็ค่อยๆสำรวจเนื้อตัวเองแล้วถามว่าเนื้อมันดูเหี่ยวๆแปลกๆป่ะ พอเราพลิกเนื้อตัวเองดูเท่านั้นแหละ!! เชื่อทันที!! ปล.รูปนี้คือเนื้อเราเอง เป็นอันที่อุบาทที่สุด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Comments